วันที่ 19 ธ.ค. 67 ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อายุ 60 ปี อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ชุมพร ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากที่มาแจ้งความในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ กับ น.ส.ฝน (นามสมมุติ) อาชีพเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่ได้นำข้อมูลการสนทนาในแอปพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างพระชั้นผู้ใหญ่ ระดับรองเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มีพฤติกรรมพูดคุยกับหญิงสาว 2 ราย คือ น.ส.จอย (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม และ น.ส.จุ๋ม (นามสมมติ) อาชีพผู้ดูแลพระภิกษุที่อาพาธ ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน กทม. ในทำนองเชิงชู้สาว มีการส่งภาพลามกอนาจาร และเชื้อเชิญชวนให้มามีเพศสัมพันธ์กัน นำมาให้กับตนเอง
ต่อมา นายธีระชาติฯ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ชุมพร จึงได้นำเรื่องไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักพุทธ และ รมช.สาธารณสุข ให้ดำเนินการทางวินัยกับพระรูปดังกล่าว และ น.ส.จอย (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่พยาบาล ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม โดยภายหลังพระรูปดังกล่าวได้มีการไปลงบันทึกประจำวันแก้เกี้ยวว่ามีคนนำรูปภาพโปรไฟล์ตัวเองไปแอบอ้าง และไม่ใช่พระรูปดังกล่าวตามที่ปรากฎอยู่ในแชต
ขณะที่ น.ส.ฝน (นามสมมุติ) คู่กรณี ก็ได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการสอบสวน ว่าตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งภายหลังสำนักพุทธได้มีการส่งหนังสือตอบกลับมายังอดีต สส.ชุมพร ว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏยังไม่อาจบ่งชี้ให้เชื่อได้ว่าพระชั้นผู้ใหญ่ ระดับรองเจ้าอาวาส อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง และตัวของอดีตส.ส.ชุมพรเอง อาจมีอคติส่วนตัว จึงเป็นเหตุให้นายธีระชาติฯ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ชุมพร ต้องมาแจ้งความร้องทุกข์ กับ น.ส.ฝน (นามสมมุติ) ที่เป็นคนนำข้อมูลหลักฐานมาให้ ที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อปกป้องสิทธิ์ และเกรงว่าจะได้รับความเสียหายจากเรื่องที่ได้ไปร้องเรียนไว้ก่อนหน้านี้
ด้านนายธีระชาติฯ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ชุมพร กล่าวว่า วันนี้ตนมาติดตามความคืบหน้าของคดี เกี่ยวกับเรื่องที่ น.ส.ฝน และ น.ส.จอย นำข้อมูลของพระชั้นผู้ใหญ่ ระดับรองเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มีพฤติกรรมพูดคุยกับหญิงสาว มีการส่งรูปโป๊ให้กันในแชตไลน์ ตนเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ร้องเรียนพระรูปนี้ไปที่สำนักพุทธแล้ว แต่ทุกอย่างถูกสอบสวนไปที่เดียวคือที่จังหวัดชุมพร ให้เจ้าคณะที่จังหวัดชุมพรเป็นคนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งมีความรู้จักและสนิทชิดเชื้อเป็นกันเป็นอย่างดีกับพระรูปดังกล่าว สุดท้ายสำนักพุทธส่งหนังสือตอบกลับถูกยุติเรื่องทั้งหมด เพราะหาว่าตนไปมีอคติกับพระส่วนตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง
ตนจึงได้เข้าร้องเรียน ที่ ป.ป.ช. ในมาตรา 157 กับพระสงฆ์ 7 รูป และบุคคลคนที่เกี่ยวข้อง 1 คน ที่ให้การช่วยเหลือทางวัด รวมทั้งเรื่องนี้ยังมีหญิงสาวที่ชื่อ น.ส.จุ๋ม ที่พูดคุยกับพระด้วย ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ในวงการพระทั้งหมด และวงการพระมีแต่เรื่องน่าเกลียด ผู้หญิงบางคนคบกับพระหลายรูป และพระหลายรูปก็คบกับผู้หญิงหลายคน ซึ่งเรื่องนี้ที่ตนออกมาร้องเรียน เพราะว่ามันเป็นเรื่องของศาสนา ไม่เกี่ยวกับเรื่องอคติกับพระ เป็นผู้หญิงคุยกับพระบอกรัก บอกคิดถึง พอจับได้มาบอกว่าล้อเล่น ซึ่งพระรูปนี้มีการโอนเงินให้ผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย
นายธีระชาติฯ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ชุมพร กล่าวต่ออีกว่า ตนจึงอยากให้พนักงานสอบสวน สอบสวนว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริงหรือไม่ จะต้องมีคนรับผิดชอบ ตนเชื่อว่าข้อมูลที่ น.ส.ฝน เป็นคนให้มาเป็นความจริง ตนจึงต้องเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง และติดตามความคืบหน้าเพื่อปกป้องสิทธิ์ และเกรงว่าจะได้รับความเสียหายจากเรื่องที่ได้ไปร้องเรียนไว้ก่อนหน้านี้
เบื้องต้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก น.ส.ฝน (นามสมมติ) ให้มาสอบปากคำ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement