เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเหตุยิงกันในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนนวลแก้วอุทิศเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้ชายเสียชีวิตอยู่กลางร้าน ขณะที่โต๊ะเก้าอี้กระจัดกระจายสอบสวน
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายสิทธิพงศ์ ศิริพันธ์ หรือช่างสิทธิ อายุ 48 ปี และพบผู้บาดเจ็บ ชื่อนางอรชร เอียดดำ อายุ 47 ปี ภรรยานายสิทธิพงศ์ บาดเจ็บศีรษะแตก น.ส.ภาวนา อุดทา อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน นายสุริยา สุประดิษฐ์ อายุ 43 ปี และเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ลูกของนายสิทธิพงศ์
เจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ และกู้ชีพบ้านพรุจึงรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก่อนที่ น.ส.ภาวนาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากถูกยิงเข้าที่เบ้าตาขวา, ศีรษะและช่องท้อง
นางนุชรี ทองเพชร อายุ 47 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงกลางวันพี่ชายพาครอบครัวไปงานศพญาติเพื่อนที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะแยกย้ายกับตนที่กลับมายัง อ.หาดใหญ่ก่อน ส่วนพี่ชายตามกลับมาพร้อมครอบครัว ในช่วงเย็นก่อนจะรู้ว่าพี่ชายนำครอบครัวมารับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มที่เกิดเหตุ เพื่อฉลองวันเกิดลูกชายอายุ 12 ขวบ ซึ่งปกติพี่ชายเป็นคนใจเย็น หากดื่มสุราแล้วมึนเมาก็ไม่เคยไปหาเรื่องใคร แต่จะเข้านอนทันที และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครจึงไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
ทั้งนี้จากสอบสวนพนักงานชายร้านข้าวต้ม อายุ 16 ปี ให้การว่าผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมาอยู่แล้ว ก็เข้ามานั่งในร้านที่โต๊ะ 15 พร้อมถือสุรามาด้วย 1 แบน เมื่อพนักงานชายไปรับออร์เดอร์ ผู้ก่อเหตุก็สั่งโซดา 1 ขวด น้ำแข็ง 1 แก้ว จากนั้นนั่งดื่มประมาณ 30 นาที ผู้ก่อเหตุออกไปคุยกับเพื่อนนาน พนักงานในร้านคนหนึ่งจึงคิดว่าลูกค้าออกจากร้านแล้วก็ไปเก็บเงิน และเตรียมเก็บโต๊ะ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ นำอาวุธปืนออกมาดึงสไลด์จ่อใส่พนักงานของร้าน ทำให้พนักงานคนนี้ต้องวิ่งหนี แล้วผู้ก่อเหตุก็เดินมาที่เคาน์เตอร์สแกนจ่ายเงินจำนวน 135 บาท แล้วออกไปจากร้านทันที
จากนั้นประมาณ 5 นาที ผู้ก่อเหตุก็ขับรถยนต์ย้อนกลับมาที่ร้าน ซึ่งพนักงานผู้หญิงในร้าน พร้อมกับแม่เจ้าของร้านก็ได้เข้าไปขอโทษ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่พอใจ อีกทั้งเจ้าของร้านก็ได้ปฏิเสธให้บริการรอบ 2 เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้สไลด์ปืนจ่อพนักงานของร้าน ทำให้ผู้ก่อเหตุมีอารมณ์โมโหเพิ่มขึ้น พร้อมกับพูดข่มขู่ลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านว่า ถ้าใครไม่อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ออกไปจากร้านจะยิงให้หมด
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงลูกค้าในร้านทันที 3 นัด ทำให้ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ กระโดดวิ่งหนีลูกกระสุน และจ่อยิงศีรษะผู้เสียชีวิตกับภรรยาต่อหน้าลูกชาย และลูกสาว ทำให้ลูกสาวหกล้มศีรษะแตก ส่วนลูกชายวิ่งหนีออกไปนอกร้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยังคลุ้มคลั่งจ่อยิงเจ้าของร้านที่วิ่งเข้าไปห้ามไม่ให้ก่อเหตุ
และหลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถยนต์หลบหนีไปตามถนนนวลแก้วอุทิศก่อนที่จะย้อนกลับไปที่บ้าน และจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันฆ่าตัวตาย เพื่อหนีความผิด แต่ภรรยาและลูกๆ ได้ช่วยกันห้ามไว้ พร้อมกับกล่อมให้มอบตัว
จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืน ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.จังหวัดสงขลา ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ซึ่งผู้ก่อเหตุปฏิเสธที่จะบอกถึงสาเหตุที่ต้องลงมือยิงเจ้าของร้านข้าวต้ม และลูกค้าต่อหน้าลูกทั้งสองคน
อย่างไรก็ตามได้ตรวจสอบพบคลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดนาที อส.คนดังกล่าวชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงลูกค้าในร้านทันที 3 นัด ทำให้ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ กระโดดวิ่งหนีลูกกระสุนเจาะยิงศีรษะผู้เสียชีวิตกับภรรยาต่อหน้าลูกชายและลูกสาว ทำให้ลูกสาวหกล้มศีรษะแตก ส่วนลูกชายวิ่งหนีออกไปนอกร้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยังคลุ้มคลั่งจ่อยิงเจ้าของร้านที่วิ่งเข้าไปห้ามไม่ให้ก่อเหตุ และหลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถยนต์หลบหนีไป
Advertisement