ที่สุดแห่งปี 2567 "บอสพอล-ดิไอคอนกรุ๊ป" คดีเด่นเขย่าคนดัง
อมรินทร์ทีวี จะพาย้อนดูข่าวที่สุดแห่งปี 2567 "บอสพอล-ดิไอคอนกรุ๊ป" คดีเด่นเขย่าคนดัง
ในปี 2567 คดีร้อนสั่นสะท้านไปหลายวงการ ทั้งธุรกิจขายตรง ออนไลน์ แชรลูกโซ่ ฟอกเงิน ยันวงการบันเทิง หรือแม้แต่เทวดาการเมือง ก็ติดร่างแหไปกับเกมด้วย ไม่ใช่คดีอื่นไกล "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่ท่านประธานบอสพอล ป่าวประกาศชวนคนมาร่วมลงทุน เปิดบิลแรก 2.5 แสนบาท แต่พอเอาไปเอามาสมาชิกเริ่มตะหงิดใจ เพราะยิ่งลงทุนไปก็มีแต่จะหมดตัว บางรายถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง เพราะเครียดไม่มีเงินจ่ายหนี้ที่หยิบยืมมาลงทุน กว่าจะรู้ก็สายเกินแก้ นี่แหละที่เขาเรียกชวนขายฝัน เน้นหาสมาชิก มากกว่าขายสินค้า
คอนเทนต์แนะนำ
ปัจจุบันคดีนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความทั่วประเทศแล้ว 1 หมื่นคนเศษ มูลค่าความเสียหายกว่า 3.2 พันล้านบาท คดีนี้ดีเอสไอรับไม้ต่อทำเป็นคดีพิเศษ และมีมติสั่งฟ้องรวดเดียว 18 บอส 4 ข้อหา ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน, แชร์ลูกโซ่, ความผิดธุรกิจขายตรง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และได้ส่งต่อสำนวนต่ออัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นอกจากนี้ ทรัพย์สินบรรดาบอสมากกว่า 320 ล้านบาท ถูก ปปง. ตรวจอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบเบื้องต้น และได้ยื่นขออัยการให้ยึดทรัพย์รวม 286 ล้านบาท
สำหรับ 18 บอส ที่ถูกดำเนินคดี เริ่มตั้งแต่ บอสพอล วรัตน์พล, บอสกันต์ กันตถาวร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด, บอสมิน พีชญา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร, บอสแซม ยุรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา และวิจัยผลิตภัณฑ์ รวมถึงบอสคนอื่น ๆ ต่างก็รับกรรมหมดซึ่งอิสรภาพอยู่ในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 17-18 ตุลาคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังโผล่ผู้ต้องหารายที่ 19 ซึ่งเป็นนิติบุคคล คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด
ตลอดการถูกจำคุก "บอสพอล" ยังคงยืนกรานว่า ดิไอคอนกรุ๊ป เป็นการทำธุรกิจไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ และอ้างว่าจนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้เสียหายแม้แต่รายเดียว เพราะคนที่มาแจ้งความนั้น ไม่มีสักคนที่ซื้อสินค้าจากบริษัทแล้วไม่ได้สินค้า ไม่มีใครที่ขายของมีกำไรในระบบบแล้วบริษัทไม่จ่ายเงินให้
ช่างบังเอิญเหมาะเจาะกับ "คลิปเสียงบุคคลปริศนา" ที่หลุดออกมาโดยเป็นคลิปเสียงของ "บอสพอล" สนทนากับนักการเมืองรายหนึ่งตัวเบิ้ม อักษรย่อ ส. ในลักษณะมีการขอให้ช่วยเหลือ และจ่ายเงินดูแลเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงที่มีการอ้างว่ามีอำนาจสั่ง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ด้วย
สุดท้ายนำมาสู่การออกหมายจับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนางวิลาวัลย์ ผู้เป็นแม่ ในข้อหาว่าร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน หลังปรากฏพยาน ว่า บัญชีเงินฝากธนาคารของนางวิลาวัลย์ มีการโอนเงินมาจากหลายแหล่งเข้ามาประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในจำนวนนี้จากบัญชี "บอสพอล 2.5 ล้านบาท และจากบัญชี "บอสปีเตอร์" ร่วม 5 แสนบาท ขณะเดียวกันตำรวจเชื่อว่า นายสามารถ ใช้บัญชีของแม่เป็นบัญชีม้า รับเงินแทน และยังพบเส้นเงินกว่า 30 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวข้องวงการพนันอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการแฉว่ามีนักร้องเรียนหญิงรายหนึ่ง ตบทรัพย์จาก "ดิไอคอน" 10 ล้าน และอีก 20 ล้านบาท เพื่อออกรายการดังช่องหนึ่งร่วมกับศิลปินหนุ่มใหญ่ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" แถมยังมีคลิปเสียงพาดพิงถึง น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โอยอ้างว่า รัฐมนตรีหญิงรายนี้ ให้อำนาจเธอคุม สคบ. เพื่อแลกเอาเงินเดือนให้พ่อของรัฐมนตรี
ไม่กี่วันต่อมา ตำรวจขอศาลออกหมายจับ เจ๊พัช น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ข้อหากรรโชกทรัพย์ เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน พร้อมคัดค้านประกันตัวและส่งตัวเข้าเรือนจำ
ยังคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะเส้นทางคดีนี้ยังต่อสู้กันอีกนาน โดยล่าสุดสำนวนคดีถึงมืออัยการสูงสุดแล้ว และให้ความเชื่อมั่นว่าคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาจะพิจารณาสำนวนกว่า 3.4 แสนแผ่น ทันตามทันกำหน ฝากขังผัดสุดท้ายต้นปีหน้า แต่สำหรับ "บอสพอล" เอง ก็คงไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกเช่นเคย
Advertisement
