วันที่ 23 ธ.ค.67 กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กทม. ลงพื้นที่พระรามที่ 2 ซอย 50 เขตบางขุนเทียน หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายเร่ร่อน พร้อมลูกสาวที่เรียนจบปริญญาตรี แต่กลับมีอาการคล้ายผู้ป่วยจิตเวช ออกมาเดินเร่ร่อน และอาศัยหลับนอนในลานจอดรถ จนชาวบ้านที่เห็นต่างรู้สึกเวทนา
เมื่อไปถึงพบนายสินสิทธิ์ อายุ 82 ปี และนางสาวเมตา อายุ 48 ปี สองพ่อลูกที่ออกมาเร่ร่อนตามเบาะแสของชาวบ้าน โดยผู้เป็นพ่ออยู่ในสภาพเนื้อตัวสกปรก มอมแมม มีบาดแผลที่บริเวณแขนหลายจุด แต่ยังพูดคุยรู้เรื่อง ขณะที่ลูกสาวอยู่ในอาการตื่นตกใจ ซึ่งขณะที่ทีมงาน กัน จอมพลัง กำลังพูดคุยด้วยนั้นกลับเกิดอาการหวาดกลัว และวิ่งหนีออกไปกลางถนน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปช่วยคุมตัวและนำส่งโรงพยาบาลศรีธัญญาทันที
นายสินสิทธิ์ ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า ในอดีตตนเคยมีครอบครัว และมีลูกกับภรรยา 3 คน ก่อนจะแยกทางกับภรรยา และออกมาใช้ชีวิตกับลูกสาวคนเล็ก ก็คือนางสาวเมตา กันสองคนพ่อลูกแบบนี้ ซึ่งตนรู้ดีว่าลูกสาวป่วยและมีอาการทางจิต เคยพาไปรักษาแล้วแต่ก็ไม่หายเพราะกินยาไม่ต่อเนื่อง ทุกวันนี้ตนต้องรักษาด้วยความรัก และความเข้าใจ ลูกสาวอยากได้อะไรก็จะหาให้ตลอด ส่วนการกินอยู่นั้นจะได้เงินจากลูกสาว 2 คนที่อยู่ต่างจังหวัด โอนให้อาทิตย์ละ 300 บาทเป็นค่ากินค่าใช้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบุญเชาว์ อายุ 64 ปี เจ้าของลานจอดรถ ให้ข้อมูลว่า คุณตาและลูกสาวอาศัยอยู่ที่หอพักหน้าลานจอดรถหลายปีแล้ว ก่อนที่ช่วงหลังคุณตาจะเริ่มเดินไม่ไหว จึงขอออกมาอาศัยอยู่ที่ห้องเล็กๆ กับลูกสาวบริเวณลานจอดรถ ซึ่งตนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะรู้สึกสงสารและเวทนา ส่วนลูกสาวของคุณตานั้น ทราบว่าในอดีตเคยเรียนนาฏศิลป์ อยู่ในมหาวิทยาลัยดัง แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ โดยจะมีกลุ่มเพื่อนชมรมนาฏศิลป์ ที่คอยแวะเวียนเอาข้าวเอาน้ำมาให้ รวมถึงตั้งรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเพื่อนคนนี้
เบื้องต้น พม.ได้เข้าประเมินสภาพความเป็นอยู่ของทั้งสองคนแล้ว ก่อนนำตัวนายสินสิทธิ์ ผู้เป็นพ่อไปเข้ารับการตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา และจะนำไปอยู่ในการดูแลคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ต่อไป ขณะที่นางสาวเมตา ลูกสาว เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปตรวจสภาพร่างกาย และสภาพจิตที่โรงพยาบาลศรีธัญญาก่อนเบื้องต้น
Advertisement