ตามนโยบายของนางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนาชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขยายผลการจับกุมคดีสั่งหาร “ลิม กินยา” พื้นที่ สน.ชนะสงครามให้ถึงตัวการ และถึงที่สุด
ล่าสุดตำรวจ สืบสวนนครบาลร่วมกันจับกุมตัวนายชาคิต หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี ชาวจ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหา “กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
กล่าวคือ “น.1 ขยายผลรวบเพิ่ม ผู้สนับสนุนจ่าเอ็ม”หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม “จ่าเอ็ม” อย่างละเอียดจนวินาทีสุดท้ายก่อนส่งตัวฝากขังต่อศาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พบพยานหลักฐานถึง “ผู้สนับสนุน” รายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำชุดพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญาในทันที หลังหมายจับได้รับการอนุมัติพล.ต.ท.สยามฯ ได้ส่งชุดสืบนครบาลออกติดตามตัวในทันที โดยสืบทราบว่า นายชาคิต ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
จากนั้นวันที่13 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 18.00 น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายชาคิต ได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยขณะจับกุมชุดจับกุมพบรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทาหมายเลขทะเบียน 3ขก 83XX กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณหน้าที่กบดาน ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่จ่าเอ็มกำลังหลบหนีข้ามชายแดนด้วยช่องทางธรรมชาติ โดยนายชาคิต ก็ยอมรับว่าเป็นรถที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุจริงๆ และชายเสื้อเขียวในภาพจากกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริงๆ และจากการขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์ของ นายชาคิต ว่ามีการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มตั้งแต่เวลา 13.54 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบนครบาลจึงทำการจับกุมตัวตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายชาคิต ให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า “ตนเองรู้จักกับจ่าเอ็มมาได้ประมาณ 2 ปี ตั้งแต่สมัยที่จ่าเอ็มยังรับราชการอยู่ ตนเองทำอาชีพขับรถรับจ้าง โดยจะรับผู้โดยสารไปๆมาๆ ส่งระหว่างชายแดน เขาดิน , บ้านแหลม และ ผักกาด โดยคดีนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นคนไปส่งจ่าเอ็มจริง และชายเสื้อเขียวที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริง ส่วนรถกระบะคันที่ขับไปส่งนั้น ตนได้ยืมมาจากพวกละแวกบ้าน ส่วนที่จ่าเอ็มไปก่อคดีมานั้นตนเองไม่ทราบ”
หลังการจับกุมได้นำตัวนายชาคิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำคณะพนักงานสอบสวนทำการขยายผลต่อไป
Advertisement