จากกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่ง ร้องเรียนไปยัง มูลนิธิเป็นหนึ่งว่าถูกสามีทำร้ายและจับโกนผม ปมเหตุมาจากความหึงหวง และตัวสามีเป็นคนอารมณ์ร้าย โดยถูกทำร้ายมาตลอดระยะเวลาที่อยู่กินด้วยกัน 4 ปี หลังจากฝ่ายหญิงพยายามหนีและขอเลิก ยังถูกฝ่ายชายตามข่มขู่ พร้อมทั้งไม่ยอมหย่าให้ เรียกเงิน 2 แสน ทั้งที่มีภรรยาใหม่แล้ว ก็ยังตามข่มขู่ไม่เลิก
ล่าสุด นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง พานางสาวออน อายุ 29 ปี ผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ ตำรวจ สภ.บางปะกง เพื่อเข้าแจ้งความ และขอให้เป็นตัวกลางในการเจรจากับฝ่ายชายเพื่อขอหย่า เพราะฝ่ายหญิงถูกตามขู่ไม่เลิก โดยเธอบอกว่า ตัวเองแต่งงานอยู่กินกับ นายกิตติชัย อายุ 33 ปี มานาน กว่า 4 ปี โดยที่ผ่านมา เธอมักจะถูกสามีทำร้าย ร่างกาย มาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมาก โดยสาเหตุมาจากเรื่องของความหึงหวง สามีชอบหาว่าเธอ ออกไปข้างนอกเพื่อ หาผู้ชายคนอื่น รวมถึง โดยปกติสามีเป็นคนอารมณ์ร้าย และชอบเล่นการพนัน พอเสีย ก็จะโมโหมาลงที่เธอ ทำร้ายร่างกายหลายต่อหลายครั้ง
ครั้งล่าสุด เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 24 ตุลาคม 2567 สามีเกิดความหึงหวง หาว่าเธอ ไปอ่อยเพื่อนของสามี จึงทำร้ายร่างกายเธอ จนบาดเจ็บหนัก ก่อนจะยื่นมีดโกน และบังคับ ให้เธอโกนผมตัวเองเพื่อที่จะได้อับอาย ไม่กล้าออกไปไหนอีก ซึ่งเธอต้องยอมทำตามคำสั่ง เพราะไม่งั้นจะถูกทำร้าย หลังจากนั้นเช้าวันที่ 25 ต.ค.เธอหาวิธีจนกระทั่งหนีออกจากบ้าน ของฝ่ายชาย กลับไปที่บ้านของตัวเอง จังหวัดสกลนคร ได้สำเร็จ แต่ก็ยังถูกฝ่ายชายตามรังควานไม่เลิก อีกทั้งฝ่ายชายรู้ว่าเธอเป็นคนรักสุนัขมาก จึงจับสุนัขที่เธอเลี้ยงไว้ มาทรมาน ขัง จับตากแดด เอาไปปล่อยทิ้งเพื่อเรียกร้องให้เธอกลับมาหา พร้อมทั้งยังขู่ครอบครัวของเธอว่าจะตามมาทำร้าย ถึงที่บ้าน เธอจึงตัดสินใจที่จะออกจากบ้านของตัวเอง และไปอยู่ในพื้นที่พัทยา บ้านพี่สาวแทน แต่ก็ยังถูกตามข่มขู่ ไม่เลิก
กระทั่งไม่นานมานี้ รู้ว่าฝ่ายชาย มีภรรยาใหม่แล้ว ก็คิดว่าไม่น่าจะ มีปัญหาอะไร สุดท้ายแล้ว ภรรยาใหม่ของอดีตสามีก็ยังทักแช9มา เพื่อขอให้เธอไปหย่า แต่พอไปถึงสามี กลับบอกว่า ถ้าไม่จ่าย 200,000 บาท ก็จะไม่ยอมหย่า ซึ่งเงิน 200,000 บาทนี้ เป็นเงินที่เคยใช้ลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน แต่ฝ่ายชาย มาบังคับเอาคืนจากเธอ ทั้งที่นำเงินไปเล่นพนันหมดแล้ว และก่อนหน้านี้อดีตสามี ยังเคยนำรถของเธอไปจำนำหลายคัน และตอนนี้ก็ยังไม่ได้รถคืนสูญเสียทรัพย์สินมากกว่า 9 แสนบาท
จนถึงตอนนี้เธอและอดีตสามียังไม่ได้หย่าขาดจากกัน ซ้ำยังถูกตามข่มขู่ ว่าหากเจอที่ไหนจะทำร้ายที่นั่น จนทำให้เธอเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะออกไปไหน ทั้งอับอายเรื่องทรงผมและหวาดกลัวที่จะเจอกับอดีตสามี จนในที่สุดตัดสินใจร้องเรียนไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งตัวเธอต้องการแค่เพียง ไม่อยากให้ฝ่ายชาย มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเธอ หรือตามข่มขู่เธอและครอบครัวอีก
Advertisement