จากกรณีพ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยาพร้อมชุดสืบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา จับกุม น.ส.สุวิชาดา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับชิงทรัพย์ร้านทองได้ ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนสาธารณะ ซอยประดู่ ถนนเตชะวนิจแขวง-เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ก่อนเข้าทำการตรวจค้นที่พัก ยึดของกลางเสื้อแจ็คเก็ต แขนยาวสีน้ำเงินที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
โดยนางสาวสุวิชาดา อ้างว่าเธอเป็นแม่ลูกอ่อน เพิ่งจะคลอดลูกได้เพียง 4 เดือนระหว่างลาคลอดลูกก็ทำอาชีพโบลท์รับส่งลูกค้า ระหว่างตนเองลาคลอดลูกเงินหมุนเวียนไม่พอใ ช้จึงได้เข้าไปกู้เงินผ่านแอปออนไลน์ 7,000 บาท พร้อมเสียดอกเบี้ย 4,000 บาทซึ่ งตอนกู้ผ่านแอปออนไลน์แจ้งว่าเป็นการกู้รายเดือนแต่เมื่อกู้เสร็จพบว่าเป็นเงินกู้เงินรายอาทิตย์ ทำให้ตนเองไม่สามารถหมุนเงินได้ประกอบกับถูกกดดันจากเจ้าหนี้ และข่มขู่หากว่าไม่คืนเงินในเวลาที่กำหนดจะไปที่บ้านตนเอง ซึ่งตนเองกลัวว่าจะถูกทำร้าย ในวันที่เกิดก่อเหตุได้รับลูกค้าจากกรุงเทพ มาส่งที่รังสิต
จากนั้นรับลูกค้าจากรังสิตมาส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างทางขับรถมาส่งลูกค้า ก็ถูกเจ้าหนี้โทรมาทวงเงินแล้วข่มขู่ทำให้ตนเองกดดันไม่มีทางออก จึงเดินเข้าไปในร้านทองและทำทีขอดูทองขนาด 2 สลึง ซึ่งระหว่างที่พนักงานในร้านเผลอ และหันไปดูทางอื่นตนเองจึงฉกทองขนาด 2 สลึงกำไว้ในมือ และนำไปซ่อนใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ จากนั้นจึงออกอุบายบอกกับพนักงานขายทองว่ าจะออกไปกดเงินสด จากนั้นเดินออกมาร้านและก็ขี่รถจักรยานยนต์นำทองกลับไปขายที่ในห้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยได้เงินมาประมาณ 10,000 กว่าบาท และก็โอนเงินประมาณ 10,000 กว่าบาทไปให้เจ้าหนี้ทันที ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อนมให้ลูก จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติจนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
ล่าสุดวันนี้ (16ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้างทองรุ่งทรัพย์ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบกับน้องไอซ์ อายุ 26 ปี พนักงานขายทองเล่า ให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.สุวิชาดา ได้เดินเข้ามาในร้านทอง ซึ่งบุคลิกท่าทางเหมือนลูกค้าทั่วไป จากนั้นทำทีขอดูสร้อยข้อมือขนาดน้ำหนัก 2 สลึง โดยแจ้งว่าจะซื้อให้ตนเองหนึ่งเส้น และซื้อให้หลานหนึ่งเส้น จึงหยิบถาดทองออกมาสองถาดให้น.สสุวิชาดาผู้ต้องหาเลือก ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาเลือกลายเสร็จ
และบอกว่าจะขอดูอีกหนึ่งเส้นเพื่อให้หลานตนเอง จึงหันไปอีกทางนึงเพื่อนำสร้อยข้อมือไปวัดขนาด จนกระทั่งผู้ต้องหาตกลงว่าจะซื้อทอง
แต่สอบถามว่าหากใช้บัตรรูดจะหักเปอร์เซ็นต์ไหม ซึ่งทางร้านแจ้งว่าหากใช้บัตรจะถูกหัก 3% ผู้ต้องหาจึงออกอุบายว่าจะออกไปกดเงินสดมาซื้อ จากนั้นก็เดินออกไปแบบไม่ได้มีพิรุธอะไร จนกระทั่งช่วงเย็นมีการเช็กสต๊อกสินค้าทอง พบว่าทองหายไป จึงไปดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าเป็นน.ส.สุวิชาดา ตนเองก็รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ แต่ตนเองมองว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีความโชกโชน หรือก่อเหตุพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้ง เนื่องจากมีท่าทางนิ่งมากและก็ไม่ได้มีพิรุธอะไรในการก่อเหตุ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินางสาวสุวิชาดา พบว่าก่อเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่
คดีที่502/2566:ยักยอก(สน.พญาไท)
คดีที่393/2566:ลักทรัพย์(สน.เตาปูน)
คดีที่394/2566:ลักทรัพย์(สน.เตาปูน)
คดีที่653/2567:ลักทรัพย์(สภ.เมืองปทุมธานีภ.1)ทั้งหมดอยู่ระหว่างออกหมายจับ
Advertisement