กรณีเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 ม.ค.2568 ร.ต.อ.วิทยานาม ทองรอง สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ทำร้ายร่างกายตัวเอง ด้วยการกระโดดสะพานภูมิพล 2 ด้านขาขึ้นปู่เจ้าสมิงพรายมุ่งหน้าลงถนนพระราม 3 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บนสะพานภูมิพล 2 ช่วงกลางสะพาน พบรถนั่งส่วนบุคคลสีดำเทา จอดดับครื่องอยู่เลนซ้ายสุดของสะพาน
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงไม่พบคนขับรถคันดังกล่าว ตรวจสอบภายในรถพบเพียงกุญแจรถ เสื้อผ้า กระเป๋า และยังพบบัตรประจำตัวพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ระบุชื่อ น.ส.ปัณฑารีฐ์ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบไปยังโรงงานต้นสังกัด โดยผู้จัดการยืนยันว่าเป็นพนักงานจริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบที่ สภ.พระประแดง และติดต่อตามหาญาติเพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าผู้ที่กระโดดสะพานเป็นหญิง อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อสีขาว สวมเพียงกางเกงใน ส่วนกางเกงนั้นได้ถอดกองไว้กับราวสะพานตรงจุดที่กระโดดลงมา และคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
ต่อมาเวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมนักประดาน้ำจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำที่ 4 กองเรือลำน้ำกองทัพเรือ ร่วมกันงมหาผู้สูญหายในแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัวจึงยุติการค้นหา
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่19 ม.ค.2568 ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพลอยน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจุดที่พบเป็นท่าเทียบเรือโดยสารเทศบาลเมืองพระประแดง ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พบร่างเป็นหญิง 1 รายลอยคว่ำหน้าอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผลตามร่างกายและไม่พบเอกสารติดตัว คาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันที่กระโดดสะพานภูมิพล 2 ก่อนหน้านี้ ซึ่งระยะทางจากจุดเกิดเหตุกับจุดที่พบศพห่างกันประมาณ 500 เมตร ตรวจสอบอย่างละเอียดทราบว่าคือ น.ส.ปัณฑารีฐ์ อายุ 40 ปี
ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ น้องสาวให้ข้อมูลว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานาน ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีผู้เสียชีวิตได้เคยก่อเหตุกระโดดจากตึก 3 ชั้นย่านบางบ่อ สมุทรปราการมาแล้วครั้งหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บขาหักและรักษาตัวตัวมาตลอด โดยก่อนหน้าได้ใช้ชีวิตแบบเก็บตัวเงียบ ไม่สุงสิงกับใครมานานกว่า 15 ปี จนมาก่อนเหตุสลดใจขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้
Advertisement