วันที่ 22 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง สูญเสียเกจิดังแห่งเมืองแปดริ้ว เจ้าอธิการสมชาย พุทฺธสโร หรือ หลวงพ่อสมชาย เกจิแห่งวัดโพรงอากาศ เจ้าอาวาสวัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
โดยได้ละสังขารลงในวันที่ 22 ม.ค. 68 เวลา 02.30 น. สิริอายุ 79 ปี 59 พรรษา
ด้านลูกศิษย์กล่าวว่า หลวงพ่อสมชายได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร เมื่อวันที่ 14-16 ม.ค. 68 จากนั้นได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อ.บางปะกง และได้เดินทางกลับมารักษาตัวต่อที่วัดโพรงอากาศ ในวันที่ 17 ม.ค. 68 เป็นต้นมา จนเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 68 เวลา 14.00 น. หลวงพ่อได้มีอาการวูบไป จึงได้ทำการส่งไปยังโรงยาบาลบางน้ำเปรี้ยว และทำการปั้มหัวใจ พร้อมส่งตัวต่อมารักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร จากอาการแน่นหน้าอก ซึ่งทางทีมแพทย์ได้เฝ้ารักษาอย่างใกล้ชิด
ต่อมาเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 22 ม.ค. 68 หลวงพ่อสมชายได้ละสังขารจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
สำหรับประวัติโดยย่อ หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พระดีเกจิดังแห่งเมืองแปดริ้ว ศิษย์เอกที่สืบทอดวิทยาคมของหลวงพ่อแจ๋ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ ซึ่งเป็นศิษย์พุทธาคมของหลวงปู่ไข่อินทสโร วัดบพิตรพิมุข (เชิงเลน) กรุงเทพฯ
หลวงพ่อสมชายจึงนับเป็นเกจิผู้สืบสายพุทธาคม หลวงปู่ไข่ผ่านหลวงพ่อแจ๋มาแบบเต็มๆ พื้นเพเป็นชาวบางน้ำเปรี้ยวโดยกำเนิด เกิดในสกุล "ไทยเจริญ" เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2488 โยมบิดาชื่อ กำนันผาด โยมมารดาชื่อนางจำปี ท่านเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 6 คน ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย เยาว์วัยเข้าศึกษาที่โรงเรียนบางน้ำเปรี้ยววิทยา จบชั้นมัธยมฯ6 มีเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันชื่อดังหลายคน อาทิ นายอุดร ขจรเวหา อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร, พล.อ.ธานี เกิดแก้ว และนายสุชล วัฒนวานิช อดีตผู้อำนวยการโรงงานยาสูบฯลฯ
หลังจากเรียนจบเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่ว่าการอำเภอบางน้ำเปรี้ยวได้ 3 ปี จึงอุปสมบท เมื่อปี 2510 มีพระครูรัตนสุนทร (กวย) วัดบางน้ำเปรี้ยว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศิริเกตุวรคุณ (เลี่ยม) วัดเกตุสโมสรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูจารุวรรณ (จ้อย) วัดบางน้ำเปรี้ยว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า "พุทธสโร" อยู่รับใช้พระอุปัชฌาย์ ที่วัดบางน้ำเปรี้ยว 7 วันจึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ (คลอง20) เพื่อศึกษาวิชาความรู้กับหลวงพ่อแจ๋ ที่เลื่อมใสศรัทธามาตั้งแต่ก่อนบวช
ก่อนบวชนั้นบิดาพาไปฝากเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแจ๋ ได้รับการเป่ากระหม่อม และมอบตะกรุดโทนให้ 1 ดอก นอกจากนี้เมื่อครั้งเป็นวัยรุ่นไฟแรงชอบตีรันฟันแทงกับนักเลงในถิ่น และต่างถิ่น โดนนักเลงดีฟันแทง แต่ไม่ระคายผิวหนัง จนโด่งดังทั่วย่านบางน้ำเปรี้ยว
ขณะจำพรรษาอยู่วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ ท่านตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากนั้นจึงหันไปศึกษาพุทธาคม จนสามารถจารอักขระเลขยันต์ได้คล่องแคล่วเขียนยันต์ได้งดงามเป็นที่ไว้วางใจจากหลวงพ่อแจ๋ มอบหมายให้จารตะกรุดแทน ที่สำคัญท่านได้ศึกษาวิทยาคมที่หลวงพ่อแจ๋ได้ศึกษามากับหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนจนหมดสิ้น ทั้งวิชาจากพระครูญาณรังสีมุนีวงษ์ (ทำ) วัดสัมปทวนก็เรียนจนทะลุปรุโปร่ง ศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อแจ๋นาน 6 ปี จึงเดินทางไปขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อทองวัดก้อนแก้ว ได้รับวิชาตกทอดมาจากหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก และ หลวงพ่อถึกวัดสนามช้าง ได้แก่ วิชาปลัดขิก และ นะเก้ายอด ก่อนไปศึกษาพุทธาคมกับพระครูกิตตินนทคุณ (กี๋) วัดหูช้าง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี, หลวงปู่ถิรวัดป่าเลไลยก์, หลวงปู่เทียมวัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อสีหมอกวัดวังตะโก
จากนั้นจึงธุดงค์รอนแรมไปในภาคเหนือ เพื่อศึกษาและฝึกฝนพุทธาคมจนได้พบกับ พระครูสันติวรญาณ (หลวงปู่สิมพุทธาจาโร) พระป่าสายหลวงปู่มั่น ที่วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อยู่จำพรรษาฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐานก่อนธุดงค์กลับมาวัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ ช่วยงานพระครูโพธิวรานุรักษ์ (ไพบูลย์) เจ้าอาวาส และเป็นศิษย์หลวงพ่อแจ๋รุ่นพี่พัฒนาวัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ จนเจริญรุ่งเรืองในปี 2519 หลวงพ่อสมชายธุดงค์มาปักกลดบริเวณ ต.โพรงอากาศ นายจันทร์และนางแฉล้ม ประดิษฐ์วงศ์ (ศิริสุข) เจ้าของที่ดินเกิดความศรัทธา จึงถวายที่ดิน 7 ไร่ให้สร้างวัด พร้อมทั้งถวายที่ดินเพิ่มให้อีก 8 ไร่ รวมทั้งสิ้น15ไร่
นอกจากนี้ท่านได้สละที่ดินส่วนตัวของท่าน ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากโยมพ่อขายไปทั้งหมดแล้วนำเงินมาซื้อที่ดินเพิ่ม จนมีที่ดินทั้งหมด 48 ไร่ จากนั้นจึงเริ่มงานก่อสร้างต่างๆ ระหว่างเริ่มก่อสร้างวัดท่านได้รับนิมนต์ไปประเทศอินเดีย เพื่อนมัสการสังเวชนียสถาน 5 ตำบล กับพระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ และหลวงพ่อขอมวัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
คราวนั้นได้นำผ้าป่าไปทอดถวายวัดไทยที่เมืองสารนาถ เพื่อสร้างโบสถ์ได้ปัจจัยจำนวน 76,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทย
หลวงพ่อสมชายเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง พูดจริงทำจริง ใครที่ได้เข้ามากราบนมัสการสนทนาพูดคุยจะได้ข้อธรรมมากมายด้วย ท่านจะให้คำแนะนำสั่งสอนและชี้ทางแก้ไขทุกข์ทางกายและทางใจ โดยท่านจะต้อนรับญาติโยมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ปัจจัยเงินทองที่ได้มาจากการบริจาคของญาติโยม หรือจากการทำบุญบูชาวัตถุมงคล ท่านจะนำไปใช้สร้างวัดโพรงอากาศจนหมดสิ้น แม้ท่านจะชอบเก็บตัวเงียบ แต่งานปลุกเสกวัตถุมงคลเจ้าภาพจะต้องส่งใบฎีกานิมนต์ หลวงพ่อสมชายเข้าร่วมนั่งปรกแทบทุกครั้ง ด้วยเชื่อในพลังจิตอันเข้มขลังที่มีอยู่ในตัวท่าน
ผลงานชิ้นสำคัญของหลวงพ่อสมชาย คืออุโบสถมหาเจดีย์ ซึ่งเป็นอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน จ.ฉะเชิงเทรา มีเสาโบสถ์ขนาด 3 คนโอบ จำนวนถึง 196 ต้นถือเป็นสัญลักษณ์ของวัดโพรงอากาศที่โดดเด่นสะดุดตา เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2535
หลวงพ่อสมชายได้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ โดยสืบสานตำรา และรูปแบบของหลวงพ่อแจ๋วัตถุมงคลยอดนิยมของท่าน อาทิ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักรุ่นแรกสร้างตามตำรับหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลน, เหรียญนางกวักรุ่นแรก และรุ่น2พิมพ์ทรงเดียวกับของหลวงพ่อแจ๋, เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกปลัดขิก เรื่องพุทธคุณนั้นดีทางแคล้วคลาดคงกระพันจากประสบการณ์ของลูกศิษย์หลายๆ คน
สำหรับสังขารของหลวงพ่อสมชายนั้น จะนำไว้ ณ ศาลาใหญ่วัดโพรงอากาศ ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉเะชิงเทรา เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้เข้าเคารพสักการะต่อไป
Advertisement