วันนี้ (23ม.ค.68) ทีมงานนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี พานางสาวลูกหมู วัย 32 ปี สาวผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรคูคต จ.ปทุมธานี หลังถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย จุดไฟเผาบ้านและลูกสาว พร้อมข่มขู่จะฆ่าให้ตายหากไปแจ้งความตำรวจ
โดยนางสาวลูกหมู บอกว่า คบหากับอดีตสามีมานาน 9 ปีแล้ว โดยเธอมีลูกติด 1 คนอายุ 15 ปี และมีลูกกับอดีตสามี 1 คนเป็นลูกสาวอายุ 7 ขวบ
ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยทะเลาะวิวาทและมีปากเสียงกันบ้างตามประสาสามีภรรยา แต่ยังไม่เคยรุนแรงเหมือนครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ได้ทะเลาะวิวาทและมีปากเสียงกับอดีตสามี จนถึงขั้นเอ่ยปากจะหย่าร้างกัน และมีการตกลงแบ่งทรัพย์สินบางส่วนกันแล้ว ซึ่งอดีตสามี ก็ตอบตกลง ก่อนจะขับรถยนต์ออกจากบ้านไป
แต่ผ่านไปประมาณ 30 นาที อดีตสามีได้โทรศัพท์มาข่มขู่ ว่า หากจะแยกย้ายไปเริ่มต้นใหม่ ก็ให้ไปเริ่มตั้งแต่ศูนย์ เพราะทรัพย์สินที่มีต่างหามาด้วยกัน อดีตสามีจะกลับบ้านไปจุดไฟเผาให้หมด ซึ่งส่วนตัวนางสาวลูกหมู คาดว่าอดีตสามีน่าจะไม่พอใจ เพราะคิดว่าเธอจะยื้อความสัมพันธ์ไว้ แต่กลับไม่เป็นไปตามคาด ทำให้เกิดความโมโห
จากนั้น อดีตสามีก็ได้ขับรถยนต์กลับมาที่บ้านด้วยความเร็ว และพุ่งชนเข้ากับรถยนต์อีกคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน จนได้รับความเสียหาย ก่อนจะเข้ามาภายในบ้าน แล้วใช้ไฟแช็กจุดผ่านการฉีดพ่นสเปย์กันยุง จนเกิดเป็นเพลิงไฟเผาทรัพย์สินและเสื้อผ้า ทำให้คนในบ้าน ซึ่งมีทั้งน้องชายป่วยออทิสติก ลูกสาวอายุ 15 ปี และลูกสาวอายุ 7 ขวบตกใจ และหวาดกลัว
ทั้งนี้ ลูกสาวได้พยายามเข้าไปห้ามปรามอดีตสามี แต่กลับถูกอดีตสามีใช้สเปย์กันยุงฉีดพ่นใส่ พร้อมกับจุดไฟแช็กด้วย ทำให้เกิดเป็นเปลวไฟเผาไหม้ตามร่างกาย จนลูกสาวต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก
จากนั้นนางสาวลูกหมูได้ไปจดทะเบียนหย่าร้างกับอดีตสามีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา และต่อมาได้มีแฟนใหม่ อดีตสามีทราบจึงเกิดความหึงหวงไม่พอใจ และยังคอยตามมาข่มขู่ คุกคามไม่หยุด โดยใช้ลูกสาวของทั้งคู่เป็นเครื่องมือในการอ้าง ว่าจะมาที่บ้าน ทำให้นางสาวลูกหมู และลูกสาวที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ เกิดความหวาดระแวง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยทเพราะอดีตสามีรู้จักทางเข้าออกบ้านเป็นอย่างดี ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ จึงตัดสินใจนำเรื่องมาร้องเรียนกับทีมงาน กัน จอมพลัง เพราะอยากให้สามีถูกดำเนินคดี และถูกลงโทษจำคุก เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ตำรวจก็จะควบคุมตัวอดีตสามีไว้แค่ 1 วันแล้วก็ปล่อยตัว ทำให้อดีตสามายังมาตามรังควานไม่หยุด
ช็อตเด็ดระหว่างที่นางสาวลูกหมู กำลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ ปรากฏว่า นายหนุ่ม (นามสมมติ) อดีตสามีได้เดินทางมายัง สภ.คูคต ด้วย และได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กัน จอมพลัง ผ่านทางโทรศัพท์ อ้างว่า สาเหตุของเรื่องเกิดจากอดีตภรรยาไปคบชู้กับเพื่อนสนิท ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้หย่าร้างกัน ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงบันดาลโทสะ อยากจะเผาทรัพย์สินทั้งหมด เพราะหามาด้วยกันอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายอดีตภรรยากลับปันใจไปหาชายชู้ แต่ลูกสาวของอดีตภรรยากลับเข้ามาห้าม ทำให้พลาดจุดไฟเผาโดยไม่ได้ตัังใจ เพราะมึนเมาสุรา ซึ่งได้กล่าวขอโทษลูกสาวไปแล้ว
นายหนุ่ม ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น อดีตภรรยาเป็นคนจัดฉาก เตรียมการไว้ทั้งหมด เพราะเป็นคนบอกเองว่าได้ตั้งกล้องไว้หมดแล้ว เพื่อเตรียมจะนำมาเป็นหลักฐานในการหย่าร้างและดำเนินคดีกับตน ซึ่งนายหนุ่ม อยู่ในอาการโมโห พยายามเถียงว่าฝ่ายหญิงสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาและตบหน้าตน
ขณะที่ กัน จอมพลัง ก็ได้ปรามบอกเป็นลูกผู้ชายทำไมถามวัวตอบควาย ไม่ยอมรับในสิ่งที่ทำกับเด็ก 15 จนต้องบอกให้ฟังที่กันพูดให้จบ ซึ่งนายหมู พยายามชี้แจงว่าที่เผาเพราะเมาแล้วต้องการของตัวเองคืน และเด็กเข้ามาดึงตนก่อน ซึ่งตนก็ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งที่สุดแล้ว กัน จอมพลังขอให้นายหมู ตั้งใจฟัง พร้อมบอกว่า ถ้าเมียเก่าเป็นอย่างที่กล่าวอ้างจริงๆ ก็น่าเห็นใจนายหมู แต่ต้องมองข้ามเรื่องนี้ไป ให้สนใจแต่ลูกที่เกิดกับหมูและอดีตเมีย ส่วนเรื่องทำร้ายลูกติด นายหมูก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ ซึ่งนายหมู ก็รับฟังโดยมีท่าทีอ่อนลง กระทั่งกัน แจ้งว่าเรื่องนี้ต้องให้ตัวกลางคือพม.เป็นฝ่ายไกล่เกลี่ยกับทั้งคู่
ทั้งนี้ ทีมงาน กัน จอมพลัง ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี มาช่วยไกล่เกลี่ยเจรจา และดูแลสุขภาพจิตให้กับคนในครอบครัว เนื่องจากมีทั้งน้องชายป่วยออทิสติก ลูกสาวที่ได้รับกระทบกระเทือนทางจิตใจและลูกสาววัย 7 ขวบ เกรงว่าหากยังมี การทะเลาะวิวาท และเผาบ้านอีก อาจจะลุกลามไปสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับเพื่อนบ้าน และคนอื่นๆ ได้
Advertisement