เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 ธ.ค.68 ร.ต.ท.ปิยวิทย์ ชีลั่น รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปทุมธานีว่า มีเหตุคนไข้กระโดดตึกลงมาเสียชีวิต เหตุเกิดที่อาคารสูง 18 ชั้น
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารสูง 18 ชั้น อยู่ด้านหลังโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิตโดยมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนำมาไว้ในตัวอาคารชั้นที่ 2 ซึ่งใช้ผ้าขาวห่อร่างที่ไร้วิญญาณไว้ พร้อมกับนำฝาสแตนเลสมาครอบคลุมร่างไว้
จากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อน.ส.สายสุนีย์ อายุ 36 ปี เป็นชาวจ.เพชรบูรณ์ สภาพศพยังสวมชุดคนไข้ของโรงพยาบาล โดยหน้าท้องไส้แตกทะลักออกมา และแขนขาหัก หลังชันสูตรเบื้องต้นได้มอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล กล่าวเพียงว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิต มาทำการคลอดลูก เมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 และได้ทำการคลอดลูกแฝดหญิง โดยการผ่าคลอดก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 22ม.ค.68 โดยท่าทางคนไข้เหมือนจะมีอาการเครียด เพราะหลังคลอดได้มีเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า คนไข้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยมีลูกที่ต้องดูแล 2 คน และมาท้องคลอดลูกแฝดอีก 2 คน โดยก่อนเสียชีวิตได้โทรไปคุยกับเพื่อนบ้านว่าเครียดไม่มีคนดูแล และห่วงลูกแฝดหญิงที่คลอดก่อนกำหนด เพิ่งนำลูกแฝดมารักษาวันที่ 24 มกราคม2568ที่ ห้องธาลัสซีเมีย (เกี่ยวกับโลหิตจาง) ชั้น 8 จากนั้นคนไข้ก็ได้มาบอกและอ้างกับเจ้าหน้าที่พยบาลว่า จะขอไปซื้อของให้ลูก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิต เดินมาดูที่หน้าต่างริมลิฟต์ที่ชั้น 8 ก่อนที่จะเดินเข้าทางบันไดหนีไฟขึ้นมาบนชั้น18 เพียงคนเดียว แล้วเปิดกรงเหล็ก กระโดดลงมาร่างกระแทกลงสู่ระเบียงชั้น 2 เสียงดังสนั่น จากนั้นทางแพทย์พยาบาลพยายามจะมาช่วยเหลือก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ให้ทางกู้ชีพฯ นำร่างเข้ามาในตัวอาคาร เพราะเห็นว่าเป็นภาพที่อุจาดตากับคนป่วยและญาติที่อยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด และติดต่อญาติเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้
Advertisement