ทหาร แจงปมเหตุ วิสามัญ 4 โจรใต้ ยันเจ้าหน้าที่โดนยิงใส่ก่อน

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจง วิสามัญ 4 โจรใต้ ยันใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เจ้าหน้าที่โดนเปิดฉากยิงใส่ก่อน จำเป็นต้องตอบโต้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 ม.ค. 68 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมยะลา ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนเคลื่อนไหวในพื้นที่ บ้านจาเราะกาดง หมู่ที่ 3 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา 

คอนเทนต์แนะนำ

สุดสลด! ไฟไหม้ร้านชำย่างสดพ่อแม่ลูก พบร่างกอดกันกลมร้านไม่เหลือซาก

อึ้ง! จ่อของบกลางจ่ายรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี7วัน 329ล้านจากเดิม140ล้าน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยัน ไม่ได้ยุติตรวจสอบทุจริตเครื่องออกกำลังกาย

โดยวันนี้ 27 ม.ค. 68 เวลา 05.30 น. จึงได้สนธิกำลังเข้าพิสูจน์ทราบบ้านพักที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายหลบซ่อนอยู่ จำนวน 2 หลัง ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. ที่บ้านเป้าหมาย หลังที่ 1 ระหว่างเจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อมพื้นที่ คนร้ายจำนวน 3 คน ได้กระโดดหลบหนีออกมาจากบ้าน พร้อมใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น หลังเสียงปืนสงบลง พบว่ามีคนร้ายทั้ง 3 ราย เสียชีวิตอยู่บริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย 

สำหรับบ้านเป้าหมายหลังที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายไม่ยอม กลับดึงลูกระเบิดขว้างแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ออกมาหวังจะขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่ เมื่อเห็นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อาวุธปืน เพื่อป้องกันตัวทำให้คนร้าย เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 ราย 

ต่อมาทราบชื่อคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย

1. นายกามารูดิง สะมะแอ อายุ 42 ปี มีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 6 หมาย

2.  นายอาบูบากา ยาซิ อายุ 44 ปี  มีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 1 หมาย

3. นายฮารง แวกือจิ อายุ 47 ปี มีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 6 หมาย

4. นายอิรฟาน มะนอมาเน็ง อายุ 24 ปี  ไม่ตรวจพบหมายจับ 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจพบอาวุธปืนของคนร้ายประกอบด้วย อาวุธปืน ไรเฟิลยี่ห้อเรมิงตั้น ประกอบกล้องเล็ง ขนาด 7.62 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนเล็กยาว เอ็ม 16 เอ 2 จำนวน 1 กระบอก ปืนเล็กยาว เอเค 102 จำนวน 1 กระบอก  ลูกระเบิดขว้างแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 1 ลูก และ เครื่องกระสุนชนิดต่างๆ พร้อมวิทยุสื่อสาร ธงสัญลักษณ์ขบวนการแบ่งแยกดินแดน พร้อมเครื่องแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาวุธทั้งหมดของคนร้ายที่ตรวจยึดได้ เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน จะเร่งสืบสวนหาที่มารวมทั้งประวัติการก่อเหตุต่อไป 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กล่าวความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตทุกราย โดยการปฏิบัติทุกขั้นตอนได้เน้นย้ำให้เจ้าที่ดำเนินการด้วยความโปร่งใสตามขั้นตอนของกฎหมาย ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่คนร้ายได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ และจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว 

ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้นรวมทั้ง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่โทรเข้ามาแจ้งเบาะแสให้ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ทราบโดยตรง จนนำไปสู่การปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว 

หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061-173-2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เช่น การส่งเสบียง การให้ที่พักอาศัยหลบซ่อน หรือ การกระทำอื่นใดที่เป็นการสนับสนุน จะมีความผิดตาม มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ