วันที่ 31 ม.ค. 68 จากกรณีกรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” เปิดโปงพฤติกรรม แก๊งโอริโอ้ (Oreo) ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น จากการเล่นเกมไฟว์เอ็ม (FiveM) ที่มีการเอาพฤติกรรมคล้ายเกมออกมากระทำในชีวิตจริง อัดคลิปทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนในเกม เพราะปมหึงหวง ใช้ไม้เบสบอลตีศีรษะ จับถอดเสื้อผ้าแล้วให้กินหญ้า หรือแม้กระทั่งเคี้ยวบุหรี่
โดย 1 ในแก๊งยังแสดงความคิดเห็นท้าทาย หนุ่ม กรรชัย และ กัน จอมพลัง จนต่อมา ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ควบคุมตัว แก๊งโอริโอ้ 3 คน ประกอบด้วย นายต้า , นายวิน , นายมิน ไปฝากขังที่ศาลธัญบุรี ต่อมาศาลให้ประกัน ต้า แก๊งโอริโอ้ กับพวก คนละ 1 เเสนบาท ในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยใช้อาวุธ ก่อนออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย พร้อมนัดรายงานตัว 24 เม.ย. 68
นอกจากนี้ สมาชิกแก๊งโอริโอ้ยังอีกหลายคน ซึ่ง 1 ในนั้นมีนาย จุติภัทร์ หรือ ปอนด์อายุ 23 ปี
ต่อมา เฟซบุ๊กเพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมส่งทนายโนบิตะ และเฮียเปี๊ยกไปอีสาน เพื่อคุยกับพ่อแม่ปอนด์หลังปอนด์สร้างเรื่อง ไปซัดชาวบ้าน ซัดผู้หญิงแล้วด่า กัน จอมพลัง ด่าคนอีสาน แม่ปอนด์ถึงกับร้องไห้ถามว่า “ปอนด์รักแม่บ้างไหม”
“พ่อกับแม่เล่าว่าไม่เคยรู้เรื่องที่ปอนด์ก่อเหตุเลย และไม่สนับสนุนสิ่งที่ปอนด์ทำ ไม่เห็นด้วยที่ปอนด์ว่าคนอีสาน ซึ่งแม่ปอนด์เองก็เป็นคนอีสาน พ่อกับแม่ยืนยันพร้อมให้ตำรวจดำเนินคดีกับปอนด์ และจะไม่ยื่นประกันตัว เพราะทุกวันนี้ลำบากมาก ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปช่วย ต้องตื่นตี 3 ออกมาตักข้าวแกง ได้นอน 3 ทุ่ม เงินแทบไม่พอจะกิน พ่อกับแม่เสียใจมากๆ ที่ปอนด์ทำแบบนี้”
“อยากขอโทษทุกคนที่ลูกสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน อยากให้ลูกหยุดได้แล้วกลับเนื้อกลับตัว จากที่ดูๆ พ่อแม่ปอนด์ไม่รู้เรื่อง แต่ปอนด์ผมยังเอาเหมือนเดิม ผมเลยเหมาข้าวแกงของพ่อแม่ปอนด์แล้วเอาไปแจกเจ้าหน้าที่ในอำเภอ สิ่งที่อยากบอกปอนด์รักพ่อรักแม่บ้าง”
พร้อมกับคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “ไม่ใช่ลูกคุณหนูที่ไหน ลูกตายายสู้ชีวิตครับ”
ขณะที่ที่ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายกฤษดา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ช่วยด้วย พร้อมกับนายภานุมาศ จิตรงศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก ช่วยด้วย พร้อมทีมงานกัน จอมพลัง เดินทางเข้าพบนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีปลัดจังหวัด และป้องกันจังหวัด เข้าร่วมรับฟังความต้องการของคณะ ที่ขอพบเพื่อต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการไปยังนายอำเภอเกษตรวิสัย นำตัวพ่อแม่ของนายปอนด์ แก๊งโอริโอ้ มาพบและรับผิดชอบในพฤติกรรมการก่อเหตุของลูกชายที่ก่อเหตุรุนแรง และยังประพฤติกรรมไม่เหมาะสม และก้าวร้าวล่วงเกินข่มขู่ให้ร้ายพาดพิงกดดัน กัน จอมพลัง ให้ได้รับความเสียหายทางสังคมออนไลน์ ซึ่งต้องการให้พ่อแม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษ กัน จอมพลัง และคนในสังคมจากพฤติกรรมที่ก้าวร้าวไม่เหมาะสมของลูกชาย
ทั้งนี้พ่อแม่ของนายปอนด์ ได้เดินทางมาให้ข้อเท็จจริงว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนเองไม่ทราบมาก่อน และมาทราบตอนที่เป็นข่าว นอกจากนี้เพิ่งทราบรายละเอียดทั้งหมดที่ลูกชายไปก่อเหตุต่างๆ ขึ้น และยืนยันว่าพวกตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมด้วยการกระทำของลูกชายทั้งหมด เนื่องจากลูกชายได้เดินทางออกจากครอบครัวไปเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว
ครอบครัวปอนด์ กล่าวว่า เขาออกบ้านไป เป็นการตัดสินใจของลูกชายเพียงคนเดียว ไม่ได้มีการปรึกษากันกับครอบครัวเลย และเคยกลับบ้านมาครั้งเดียวในช่วงแรกๆ เพื่อมาเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นเท่านั้น จากนั้นก็เงียบหายไปติดต่อกันไม่ได้ โทรศัพท์ไปก็ไม่ติด และก็ไม่เคยติดต่อมา ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นพวกตนไม่น่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากลูกชายบรรลุนิติภาวะแล้ว และก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆกันอีกเป็นเวลานานแล้ว
ครอบครัวปอนด์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทราบข่าว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำได้เพียงขอโทษสังคม และผู้เกี่ยวข้องที่ลูกชายไปก่อเหตุทำให้ได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหาย ตนทำได้แค่เพียงขอโทษ และเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นเท่านั้น ส่วนการที่จะให้ตัวนี้เข้าไปรับผิดชอบตนเองคิดว่า น่าจะไม่ใช่เรื่องที่พ่อแม่จะต้องเข้าไปรับผิดชอบ เนื่องจากลูกโตแล้ว และพฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวมาเป็นเวลานาน จึงเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ตนก็ได้แต่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ครอบครัวปอนด์ กล่าวต่อว่า อยากฝาก ข้อความไปถึงลูกชาย ที่ก่อเหตุว่า พ่อพร้อมที่จะอภัยให้ โดยหลังจากพ้นโทษแล้ว ก็อยากให้กลับมาบ้าน แล้วกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีในสังคม ซึ่งพ่อแม่ก็พร้อมที่จะยอมรับ แล้วเปิดโอกาสให้ กับตัวเป็นคนดี กลับมาอยู่ในพื้นที่ สิ้นพ่อแม่พร้อมเครือญาติ ก็พร้อมที่จะอภัยให้ และคิดว่าแม้แต่สังคมก็คงจะให้อภัย หากจะกลับบ้านแล้วมากลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี หลังจากพ้นโทษแล้วและอยากจะบอกให้ลูกรู้ว่า ยังไงเสียพ่อแม่ก็ยังรักลูก และพร้อมจะอภัยให้เสมอและยินดีต้อนรับ ลูกกลับบ้าน ด้วยความอบอุ่นและความรัก ที่พ่อแม่ยังคงมีให้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
Advertisement