Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รวบแล้ว! ดาวกองร้อยปอยเปต หลอก ชาล็อต - แอนชิลี อ้างถูกทำร้าย จำใจทำ

รวบแล้ว! ดาวกองร้อยปอยเปต หลอก ชาล็อต - แอนชิลี อ้างถูกทำร้าย จำใจทำ

3 ก.พ. 68
17:15 น.
|
142
แชร์

รวบดาวกองร้อยปอยเปต พบหลอกชาล็อต-แอนชิลี อ้างทำไปเพราะถูกทำร้าย หลบหนีออกมาไม่ได้ ได้ส่วนแบ่ง 40,000 บาท

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุม นายรามิล อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4557/2567 ลงวันที่ 19 ก.ย. 2567 (สน.พญาไท) ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 68 ที่บ้านพักใน หมู่ 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และ นายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.153/2568 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2568 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 68 ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ปอท. ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหาย โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ผู้เสียหายดู จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจริง ต่อมาคนร้ายจึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 163 เคส ตำรวจจึงเร่งรัดดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนภายหลังสามารถระบุ ตัวคนร้ายที่แต่งกายเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกลวงผู้เสียหาย จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายตามหมายจับดังกล่าว

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เคสนี้ใช้เวลาครึ่งปีในการขยายผล โดยพบว่ากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าไปอยู่ในอาคาร 18 ชั้น โดยแก๊งนี้พักอยู่ที่ชั้น 13 มี 50 คน ผู้ต้องหาอ้างถูกชักจูงผ่านโซเชียลโดยคิดว่าจะถูกให้ไปทำงานเป็นแอดมินชักชวนให้เล่นพนันเพื่อหารายได้ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทางและโทรศัพท์ และถูกให้มาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยบริเวณอาคารจะมีคนคุมและเฝ้าที่หน้าตึกและชั้น 3 โดยชั้น 1 จะเป็นสถานที่ซื้อสินค้า ที่ผ่านมาจากข่าวที่ปรากฏพบอาคารแห่งนี้ว่ามีคนไทยเสียชีวิตจากการกระโดดตึกลงมา 2 ราย

ทั้งนี้ทางรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อยู่เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศจะต้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีการเจรจาพูดคุยกัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ก็มีขีดจำกัดในการทำงาน ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างตำรวจและรัฐบาลในการแก้ไขเรื่องนี้ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกข้อกล่าวหาแยกตามพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้เสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละราย

จากการจับกุมพบว่าขบวนการนี้ได้มีการใช้ AI ปลอมแปลงใบหน้าทำให้ยากต่อการจับกุม ส่วนเรื่องของเงิน จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า เงินที่หลอกมาได้มีการแปลงเงินเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนจะทำการฟอกเงินเป็นสกุลเงินต่างๆ ในหลายชาติ เช่น ไทย เวียดนาม ก่อนจะแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้กับผู้ร่วมขบวนการ หลังจากนี้ตำรวจจะเร่งขยายผลติดตามตัวผู้บงการที่รับผลประโยชน์สูงสุด

โดย นายรามิล ให้การรับสารภาพว่า ตัวเองทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจาก ระบบซิมบ็อก ที่มีการเซ็ตระบบไว้ โดยจะได้ข้อมูลของเหยื่อ และจะต้องพูดตามสคริปที่บอสชาวจีน และคนคุมงานซึ่งเป็นคนไทยส่งมาให้ เมื่อผู้ต้องหาพูดชักจูงเหยื่อจนเหยื่อเริ่มหลงเชื่อแล้ว จากนั้นจะมีการส่งต่อไปให้กับสาย 2 เพื่อดำเนินการ

ด้าน นายธนาวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ตัวเองเป็นผู้ร่วมขบวนการของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลเพื่อหลอกลวงเหยื่อจริง โดยตัวเองได้แต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและวิดีโอคอลไปหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายราย รวมไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย

ทั้งนี้ นายธนาวุฒิ ยังให้การอีกว่าในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัวเองจะมีหน้าที่วิดีโอคอลเพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ และทำหน้าที่ควบคุมเหยื่อผ่านการวิดีโอคอลในระหว่างการหลอกลวง โดยเมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้วจะมีคนร้ายที่เรียกว่าสาย 3 ทำหน้าที่ปิดดีล หลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ ในระหว่างการหลอกลวงจะมีทั้งคนไทยและคนจีนทำหน้าที่เป็นคนควบคุม และคิดสคริปต์ในการหลอกลวงเหยื่อเพื่อให้เป็นไปตามบทที่วางไว้ โดยหากตัวเองไม่ปฏิบัติตามหรือต่อต้านจะถูกทำร้ายร่างกาย และหากสามารถหลอกจนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินมาให้ได้ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากมูลค่าที่หลอกลวงเหยื่อ

นายธนาวุฒิ เล่าว่า ตัวเองทำหน้าที่เป็นสายที่ 2 เป็นคนปลอบใจ อ้างว่าผู้เสียหายมี ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ตอนแรกไม่ทราบว่าได้พูดคุยกับ น.ส.ชาล็อต ออสติน มาทราบตอนที่ได้พูดคุยกันแล้ว โดย ชาล็อต จะร้องไห้เพราะกลัวว่าจะกระทบการทำงาน จึงได้พูดให้เขาสบายใจที่สุดในเรื่องที่เขาไม่สบายใจและให้เขาพักผ่อน โดยได้พูดคุยกันทั้งคืนจนเช้า กำชับไม่ให้ผู้เสียหายวางสายโทรศัพท์ ส่วนชื่อที่เอามาใช้หลอกมีอยู่ในอินเตอร์เน็ต ยอมรับว่าเริ่มทำงานสาย 1 เมื่อปี 2566 ต่อมาในปี 2567 ได้ขยับเลื่อนมารับสาย 2

ที่ผ่านมาเคยหลอกบุคคลที่มีชื่อเสียง คือ น.ส.ชาล็อต ออสติน และ แอนชิลี และเคยพยายามหนี ออกจากขบวนการแต่โดยใช้ไม้เบสบอลตี 5 ครั้ง ที่หลุดออกมาจากวงจรโคจรได้เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยขบวนการได้ปล่อยให้เดินทางกลับพร้อมให้เงินมา 40,000 บาท เนื่องจากให้เหตุผลว่าตัวเองไม่มีประโยชน์กับขบวนการแล้วกลับมาไทยได้เพียง 2 สัปดาห์

นายธนาวุฒิ ยังเล่าว่า เมื่อไปถึงทุกคนจะโดนจับอบรม 7 วัน โดยจะต้องไปฟังสคริปว่าจะต้องทำหน้าที่อย่างไร และมีการฝึก วิธีการพูด การโทรและการหลอกคนว่าจะต้องทำอย่างไร โดยคนจีนเป็นคนเขียนสคลิปให้และมีล่ามเป็นผู้แปลให้ ได้รับส่วนแบ่งก่อนหน้านั้นไปใช้เล่นพนันสล็อตบนมือถือจนหมดแล้ว ส่วนบอสชาวจีนเคยพบแต่ไม่บ่อย โดยผ่านล่ามเป็นผู้มาแปลให้ ส่วนตัวเองไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเท่าไหร่ ที่ผ่านมามีตำรวจกัมพูชามาตรวจตรวจสอบอยู่บ่อยครั้งเมื่อมาถึงจะทำการหลบซ่อนแล้วก็ล็อคห้องเหมือนไม่มีคนอยู่ โดยหนึ่งปีจะมาตรวจ 4-5 ครั้ง โดยชั้น 13 ที่พักจะเป็นห้องยาวแล้วก็มีห้องแบ่งเหมือนโรงแรมทั่วไป มีผู้ร่วมขบวนการอยู่ 30-40 คน ที่ผ่านมาพบว่ามีคนจีน อินโดนีเซีย อินเดีย และมาเลเซีย อยู่ในอาคารนั้นด้วย

มีคนคุมระบบหลังบ้านเป็นชาวจีน ส่วนที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่มาตรวจเพราะเกรงว่าตำรวจจะมีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้และไม่รู้ว่าหากขอความช่วยเหลือแล้วจะถูกจับได้ก่อนหรือไม่ ที่ผ่านมาเคยพยายามหลบหนีแล้วหนึ่งครั้ง เคยขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตไทยแต่ถูกจับได้ก็ถูกทุบตี จึงไม่ทำอะไรที่เสี่ยงให้ตัวเองถูกทำร้ายอีก พร้อมขอโทษผู้เสียหายทุกราย หากไม่ทำก็ถูกทำร้าย ที่ทำเพราะมีปัญหาหนี้สินที่ต้องเคลียร์ โดยสมัครไปเป็นแอดมินเว็บพนันเพื่อรับเงินและโอนเงินเข้าระบบให้ลูกค้าแต่เมื่อไปถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทาง และบังคับให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์

โดยพฤติการณ์ในการหลอกลวงผู้เสียหายจะประกอบไปด้วย 3 สาย โดยสายแรกจะข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีความผิดฐานฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนจะโอนไปยังสายที่ 2 เพื่อพูดคุยโน้มน้าวปลอบให้เหยื่ออยู่ในสาย ตัวเองทำหน้าที่นี้อยู่หากโอนเงินมาให้ตรวจสอบจะปลอบเหยื่อว่าได้เงินคืนอย่างแน่นอน ก่อนจะโอนไปยังสายที่สามซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ โดยบทบาทที่มีการแอบอ้างจะอ้างตัวเป็นตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองร้อยปอยเปรตที่ทำหน้าที่พูดคุยกับผู้เสียหายรู้จักกันทุกคน ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าคนอื่นๆ ยังอยู่ที่นั่นหรือไม่ หลังทราบข่าวว่าตำรวจกองปราบประกาศจับก็รู้สึกกลัว และมีการพูดคุยกันในกลุ่ม เมื่อถามว่ากลัวใคร นายธนาวุฒิ กล่าวว่า กลัวตำรวจ

เบื้องต้นได้นำตัว นายรามิล นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ส่วน นายธนาวุฒิ นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

แชร์
รวบแล้ว! ดาวกองร้อยปอยเปต หลอก ชาล็อต - แอนชิลี อ้างถูกทำร้าย จำใจทำ