เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยความคืบกรณีคุณยายวัย 85 ปี ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน 2 ล้านบาท ว่าตอนนี้ได้โอนสำนวนคดีมาจากสภ.ปากเกร็ด ที่ผู้เสียหายเคยไปแจ้งความไว้เมื่อวัน 4 กุมภาพันธ์ ในช่วงเที่ยงหลังเกิดเหตุ โดยมอบหมายให้ทาง พล.ต.ต.ศิริวัฒร์ ดีพอ รรท.ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รรท.ผบก.สอท.2 เป็นผู้รับผิดชอบ ในการสืบสวนสอบสวนติดตามเงินของผู้เสียหายหลังจากที่ได้ทราบเรื่องตนได้ให้ทีมประสานงานกับธนาคารเพื่อตรวจสอบและระงับทางธุรกรรมต่อจากที่ทางสภ.ปากเกร็ดทำไว้
เบื้องต้น พบว่ามีการโอนเงิน 2-3 ทอด ไปถึงธนาคารปลายทาง ซึ่งทางตำรวจร่วมกับธนาคารสามารถอายัดเงินไว้ได้ที่ธนาคารปลายทางไว้ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งมีเงินออกไปแล้วบางส่วน ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นการหักค่าธรรมเนียม 200 บาท และต่อไปก็จะทำหมายอายัดเพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ในส่วนของการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า หรือผู้ร่วมกันกระทำความผิด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิด ส่วนชื่อของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังที่นำมาแอบอ้างเชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงเพราะเป็นรูปแบบเดิมของมิจฉาชีพที่มักจะอ้างชื่อเจ้าหน้ารัฐ
ในส่วนของกรณีนี้คุณยาย ถูกหลอกด้วยวิธีการโทรศัพท์มาหาในช่วงเช้าที่คุณยายกำลังตื่น และอาจจะยังไม่มีสติในพูดคุย ปกติแล้วลูกหลานคุณยายเคยบอกไว้ว่าไม่ให้คุยกับเบอร์แปลก หลังจากนั้นมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากการกระทรวงการคลัง บอกกับคุณยายว่าพันธบัตรสลากออมสินของคุณยายนั้นมีอยู่ 4 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำให้ถูกต้อง หรือทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาทก็จะถูกเก็บภาษี จากนั้นหลอกให้คุณยายพูดคุยโดยการวิดีโอคอลร่วม 1 ชั่วโมง และล่อลวงให้คุณยายโหลดแอปพลิเคชั่นธนาคารมาไว้ในมือถือจากนั้นก็สอนให้คุณยายเข้าไปในแอปธนาคารและทำธุรกรรมรวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนจะดูดเงินออกจากธนาคารคุณยายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท
จึงอยากฝากเตือนถึงคนทุกกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีทางที่จะโทรศัพท์และวิดีโอคอลไปหาประชาชนหรือส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ไปหาประชาชนอย่างแน่นอน จึงอยากให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มเบาะบาง หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจจะรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพเพราะไม่ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี อีกทั้งยังประชาสัมพันธ์ ให้คนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปโหลดแอปพลิเคชพพ “Senior’s Community Cyber Police Club เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพในการที่จะถูกหลอก อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้จะรีบดำเนินการจะรีบดำเนินการนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้เร็วที่สุดซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายทราบคุณยายวัย 85 ปีก็ดีใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งฝากไปถึงประชาชนหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตนเองให้รีบไปแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ตำรวจประสานงานไปยังธนาคาร และรีบอายัดเงินไว้ได้ทัน
ด้านนายทัศน์พล ทิศเสถียร วัย 30 ปี หลายชาย ระบุว่า หลังจากที่ทราบเรื่องจากคุณยายก็รีบกลับมาที่บ้าน พาคุณยายไปแจ้งความทันทีที่สภ. ปากเกร็ด ก่อนที่จะประสานมายังตำรวจไซเบอร์เพื่อดำเนินการติดตามเงินคืน โดยคุณยายบอกว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เก็บเงินเป็นลูกหลานและอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ทำศพให้ตัวเอง คุณยายคิดว่าน่าจะไม่ได้เงินคืนแล้ว แต่พอรู้ว่าเงินถูกอายัดไว้ได้ทันคุณยายก็รู้สึกดีใจ
Advertisement