เจ้าอาวาส เผย ไอ้โน๊ต ฆาตกร3ศพ เคยขอยืมเงินแต่ไม่มีให้
เจ้าอาวาสวัดเกาะหมู เผย ไอ้โน๊ต ฆาตกร3ศพ เคยขอยืมเงิน บอกจะเอาไปซื้อโดรนเกษตร แต่ไม่มีให้ คาดเป็นชนวนให้ไปยืม วงศกร
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายศิวกร หรือ โน๊ต และ นายนิรุตย์ หรือ เข้ ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมพ่อแม่ลูก 3 ศพ คือ นายวงศกร อายุ 37 ปี น.ส.นันทกานต์ อายุ 35 ปีภรรยา และ น้องซันเดย์ อายุ 7 ขวบลูกชาย หลังทั้ง 3 คนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนมีชาวบ้านไปพบรถกระบะจอดอยู่ในบ้านร้าง โดยทั้ง 3 คนถูกยิงที่หัวเสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
คอนเทนต์แนะนำ
วันที่ 15 ก.พ. 68 ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กของ “นายศิวกร“ พบว่าเมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 เจ้าตัวโพสต์ข้อความเกี่ยวกับโดรนการเกษตรว่า “ขออนุญาตแจ้งนะครับ ต่อไปนี้ผมเลิกทำโดรนแล้วนะครับ เลิกรับงานทุกอย่าง ขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านครับ”
หากดูตามข้อความนี้เหมือนตัวของ นายศิวกรจะมีอารมณ์โกรธและโมโหพอสมควรเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่มีเงินไปชำระให้กับร้านโดรนการเกษตร
ต่อมาทีมข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนที่ นายศิวกรจะไปยืมเงินจากนายวงศกร เจ้าตัวได้ไปติดต่อขอยืมเงินกับเจ้าอาวาสวัดเกาะหมู แต่โดนปฏิเสธ
วันนี้ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้เดินทางไปที่วัดเกาะหมู เพื่อไปพูดคุยกับ พระอธิการมงคล เขมกาโม เจ้าอาวาสวัดเกาะหมู ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เคยปลงผมและพระกรรมวาจาจารย์ให้นายศิวกร เล่าว่า นายศิวกรเป็นลูกศิษย์เก่าของตนที่ตนเองพระกรรมวาจาจารย์บวชให้เมื่อช่วง 5 ปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวบวชที่วัดศรีภิรมย์เป็นเวลา 15 วัน ใช้อุโบสถที่บวชที่วัดศรีภิรมย์ แต่มาจำศีลที่วัดเกาะหมู ระหว่างที่จำศีลเป็นคนที่ตั้งใจในการบวช ตั้งใจบิณฑบาต ประพฤตดี โดยตอนนั้นเจ้าตัวจะอุทิศส่วนกุศลให้กับย่าที่ล่วงลับแล้ว แต่หลังจากออกบวชเริ่มมีพฤติกรรมเกเร เพราะคบเพื่อนเกเร และไม่ค่อยได้มาหาพระอาจารย์ที่วัด
ช่วงปีใหม่ 2568 นายศิวกร ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่กุฎิตน และมาขอยืมเงิน 100,000 บาท อ้างว่าเจ้าตัวอยากจะได้โดรนเพื่อทำการเกษตรตัวใหม่ที่เอาไว้พ่นยา หลังจากที่โดรนตัวเก่าเริ่มเก่าแล้ว โดยบอกกับตนเองว่า เจ้าตัวได้ไปติดต่อบริษัทหนึ่งซื้อโดรนตัวใหม่จำนวน 400,000 บาท และได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่ามัดจำไปแล้ว 70,000 บาท แต่เกินค่ามัดจำจะต้องวางทั้งหมด 170,000 บาท และที่เหลือบริษัทให้ผ่อนได้เป็นรายเดือน
จึงมาขอยืมเงินกับตน 100,000 บาท เพื่อไปวางเงินมัดจำเพิ่ม แต่ปรากฎว่าตนปฏิเสธ เพราะเงินส่วนตัวเอาไปจ้างพี่ชายของนายศิวกรตัดต้นไม้ และปรับปรุงหมดแล้ว บวกกับเงินที่เหลืออยู่เป็นเงินจากที่ชาวบ้านทำกฐิน จึงรู้สึกว่าไม่เหมาะสมหากจะให้ยืมไป ก็เลยแนะนำให้ไปหายืมกับฆราวาส
ตอนที่ตนเองบอกว่าไม่มี สังเกตได้ว่านายศิวกรเครียดมาก เนื่องจากหากไม่ไปวางมัดจำเพิ่มอีก 100,000 บาท จะสูญเงิน 70,000 บาทที่วางไว้ คาดว่าก็เลยทำให้เจ้าตัวไปยืมนายวงศกร เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ไปยืมนายวงศกรบ่อยครั้งแล้ว แต่ยืมทีละ 4,000 -5,000 บาท คาดว่าน่าจะเครียดเรื่องกลัวสูญเงิน 70,000 บาท เพราะนายวงศกร บอกว่าจะให้ยืมเงินแต่สุดท้ายน่าจะเปลี่ยนใจ ก็เลยก่อเหตุดังกล่าว
Advertisement
