เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ก.พ. 68 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงข่าวจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ เครือข่าย "ตาต้าท่าขี้เหล็ก" เข้ามาซุกซ่อนในพื้นที่ตอนในเพื่อ รอกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ยาไอซ์ 2,464 กิโลกรัม รถยนต์ 3 คัน
พล.ต.ท.สันติ. กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด “ตาต้าท่าขี้เหล็ก” จำนวน 2 คน และขยายผลสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ต่อมาทราบว่าเครือข่ายตาต้าท่าขี้เหล็ก ยังมีความเคลื่อนไหวการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ สู่พื้นที่ตอนในของประเทศ และปริมณฑล โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งออกไปต่างประเทศ สืบสวนกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.พ.68 พบพฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องหามีการเดินทางจากภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
โดยมีการใช้ยานพาหนะรถยนต์กระบะ ตู้ทึบในการบ
รรทุกยาเสพติด อำพรางเป็นรถขนส่งสินค้าทั่วไป ใช้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด บูรณาการ กับเจ้าหน้าที่ สภ.มหาราช ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ใกล้ป้อมตำรวจสภ.มหาราช ทางหลวงหมายเลข 32 สายเอเชีย กม.46+600 ต.ท่าตอ อ.มหาราชจ.พระนครศรีอยุธยา พบ รถกระบะโตโยต้า ไฮลักษ์ สีขาว ทะเบียน 1ฒว7280 กรุงเทพมหานคร รถกระบะอีซูซุ สปาร์ค สีขาว ทะเบียน 1ฒศ 6772 กรุงเทพมหานคร ทั้ง 2 คันต่อตู้ทึบท้ายกระบะขับตามกันมา
โดยมีรถเก๋งโตโยต้าแคมรี่ สีบรอนซ์เงินทะเบียน ฌต 7915กรุงเทพมหานคร ขับตามปิดท้าย เรียกรถยนต์ทั้ง 3 คัน ตรวจค้น พบยาไอซ์ที่รถกระบะอีซูซุ 1,000 กิโลกรัม และที่รถกระบะโตโยต้า 1,464 กิโลกรัม รวม 2,464 กิโลกรัม ซุกซ่อนมาในรถยนต์กระบะตู้ทึบ 2 คัน และมีรถเก๋งโตโยต้า รุ่นแคมรี่ มีพฤติกรรมขับรถปิดท้าย จับกุมคนขับทั้ง 3 คน ไม่มีผู้โดยสาร ประกอบด้วยนายหล้า อิงสมุทร อายุ 47 ปี นายวิษณุ แก้วเพ็ง หรือหนุ่มอายุ 26 ปี นายสุวิทย์ ขันเงิน หรือ ต้อม อายุ 32 ปี ยึดยาไอซ์ รถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
แจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.เพื่อดำเนินคดี
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล คดีนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากของตำรวจ เป็นเครือข่ายยารายสำคัญ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จับกุมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือว่าเป็นการจับยาไอซ์มากที่สุดในรอบหลายปี หากหลุดรอดไปถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก และราคายาเมื่อหลุดไปต่างประเทศจะมีมูลค่าเพิ่มอีก6-7เท่า หลังจากนี้จะมีขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป
Advertisement