เมื่อเวลาประมาณ 22:00 น. ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่ง พบร่างผู้ถูกทำร้าย เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายเพียงใจ เขียวนิล อายุ 49 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณหน้าท้อง ความยาวบาดเเผลประมาณ 20 เซนติเมตร มีลำไส้ไหลออกมา
โดยในที่เกิดเหตุยังพบมีดพับ 1 เล่ม เป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่กู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้ง จะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร ที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
วันนี้ (21 ก.พ.68) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยพัฒนาการ 37 บริเวณจุดเกิดเหตุอยู่หน้าอาคารเรียน ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทันทีที่มาถึงกำลังพบกับแม่บ้านกำลังนำสายยางฉีดน้ำ กวาดทำความสะอาดคราบเลือดออกจากจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า เนื่องจากในวันดังกล่าวไม่มีนักศึกษามาเรียน มีเพียงแค่เจ้าที่รักษาความปลอดภัย และช่างที่คอยดูแลอาคาร พร้อมบอกว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่ทำงานเป็นกะ เวลา 19.00 - 07.00 น. และประตูของมหาวิทยาลัยจะปิดตั้งแต่ 21.00 น. จึงไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนสั่งออเดอร์จากไรเดอร์มา อาจจะเป็นการเข้าใจผิด แต่ทางด้านแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลก็มองว่าการทำเช่นนี้ก็ทำเกินกว่าเหตุ หากโมโหที่ถูกยกเลิกออเดอร์ก็ไม่ควรมาลงกับรปภ. ของมหาวิทยาลัย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเอ (นามสมมติ) หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของ นายเพียงใจ เขียวนิล ผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนรู้จักกับผู้เสียชีวิตได้ไม่นาน เพราะเพิ่งเข้ามาทำงาน ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน โดยเมื่อคืนนี้ผู้เสียชีวิตมาเข้าเวร และอยู่คนเดียวเนื่องจาก รปภ.อีกคนเป็นเวรหยุด ซึ่งเมื่อคืนนี้ตนไม่ได้มาทำงาน แต่ได้รับแจ้งช่วงเวลา 22.00 น. ว่ามี รปภ. ถูกทำร้ายภายในมหาวิทยาลัย จึงรีบขี่จักรยานรถมาที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น และไม่ได้สติแล้ว ตนจึงรีบออกมาจากจุดเกิดเหตุเนื่องจากเป็นคนที่กลัวเลือด จากนั้นได้รับการประสานจากทางมหาวิทยาลัย ให้ไปรับตัวภรรยาผู้เสียชีวิตมาที่เกิดเหตุ
นายเอ บอกอีกว่า ปกติแล้วไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ ส่วนใหญ่ ก็จะมีไรเดอร์เข้ามาส่งอาหารอยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยเกิดปัญหา มองว่าเหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุทำนั้นทำเกินกว่าเหตุ มีอะไรน่าจะคุยกันดี ๆ และเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้สึกกลัวในการที่จะมาทำงาน และไม่กล้าที่จะมาอยู่เวรดึก เพราะไม่ทราบว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร จะมาก่ออันตรายกับตนหรือไม่
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า มีไรเดอร์ เข้ามาภายในซอยพัฒนาการ 37 แล้วมาถาม รปภ.ว่า มีใครได้สั่งอาหารไหมเนื่องจาก Order โดนยกเลิก รปภ.เลยตอบไปว่า น่าจะไม่มีเพราะตัวเองก็ไม่เห็นใครมานั่งรอรับอาหาร จนมีการต่อว่ากันเกิดขึ้น ไรเดอร์ไม่พอใจได้คว้าอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณหน้าท้องรปภ.จนเสียชีวิตดังกล่าว
ทีมข่าวสอบถามภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ตนอยู่ที่บ้าน ส่วนสามีออกไปทำงานตามปกติ ซึ่งจะเข้างานตอน 1 ทุ่ม และเลิกงานตอน 7 โมงเช้าทุกวัน ทำที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว ก็ยังไม่เคยมีเหตุแบบนี้มาก่อน
โดยเมื่อคืนนี้ได้มีเพื่อนของสามีที่เลิกงานแล้วมาเรียกตนที่ห้อง บอกว่าสามีถูกแทง ตนจึงรีบไปดู ตอนนั้นตกใจมาก ช็อกไปเลย ทำอะไรไม่ถูก พอไปถึงสามียังหายใจอยู่ แต่สักพักก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งตนก็เพิ่งมาดูในโทรศัพท์ว่าหลังเกิดเหตุ สามีได้โทรเข้ามาหาตน แต่ตนไม่ได้รับเพราะหลับไปแล้ว คิดว่าเขาน่าจะโทรมาบอกว่าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นและขอความช่วยเหลือ
ส่วนผู้ก่อเหตุตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอนนี้ไปแจ้งความไว้แล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ตนอยากฝากถามว่า ทำไมถึงมาทำแบบนี้ ตนไม่มีใครอยู่กันแค่ 2 คน ไม่น่าทำแบบนี้เลย ปกติสามีก็เป็นคนโกรธง่ายแต่หายเร็ว แต่มั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ สามีตนไม่ใช่ฝ่ายเริ่มก่อนแน่นอน.
Advertisement