จากกรณีสาวใช้วัย 22 ปี ร้องนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ว่าโดนนายจ้างทารุณเยี่ยงทาส ทั้งเอาหวายฟาด 98 ครั้ง เอาน้ำแกงราด และทุบตีใบหน้า ก่อนตัดสินใจหนีเอาชีวิตรอด แต่ถูกนายจ้างแจ้งจับฐานลักทรัพย์ จนเป็นคดีมีหมายจับภายในเวลา 4 วัน สุดท้ายนายจ้างมาประกันตัว และฝั่งผู้เสียหายต้องการที่จะดำเนินคดีกับนายจ้างในข้อหาทำร้ายร่างกายแต่ก็มีความห่วงกังวลว่า เพื่อนที่เป็นสาวรับใช้เป็นพยานคนสำคัญอาจได้รับอันตราย เพราะยังติดต่อไม่ได้นั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 26 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวฝั่งเพื่อน และนายจ้าง โดยนายสุทธิพันธ์ บุญโปร่ง ทนายความของนายจ้าง ได้พา น.ส.แบม อายุ 22 ปี เพื่อนสาวใช้อีกคนที่ผู้เสียหายบอกว่าขาดการติดต่อไป ขอให้ตำรวจช่วยเหลือ เกรงจะไม่ปลอดภัย มาแสดงตัวที่ สภ.บางกรวย
โดย น.ส.แบม ยืนยันว่า ตนเองปลอดภัยดี และไม่มีใครติดต่อมา เนื่องจากผู้เสียหายเป็นฝ่ายบล็อกตนเอง มีเพียงตำรวจโทรแจ้งตนเอง จึงมาพบตำรวจ ยืนยันว่าตนเองทำงานกับนายจ้างคนนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว และไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย อาจมีโดนดุบ้างเวลาที่ทำงานผิดพลาด แต่ก็รู้ตัวว่าเป็นคนผิด ส่วนที่ผู้เสียหายโดนทำโทษด้วยการตีหลายครั้งตามที่ปรากฎในภาพวงจรปิดนั้น ตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เคยมีบางครั้งที่นายจ้างทำโทษผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายทำให้สุนัขชิวาวาของนายจ้างป่วย และไม่ดูแลให้ดี เวลาป้อนยาป้อนอาหารก็มักจะบีบคอสุนัข จับกดหัว ทำให้อาการสุนัขไม่ดีขึ้น หลังจากที่ผู้เสียหายออกจากบ้านไป ตนเองเป็นคนดูแลสุนัข อาการก็ดีขึ้น นอกจากนี้มีบางครั้งที่นายจ้างให้ผู้เสียหายถ่ายรูปกระเป๋าแบรนด์เนมเพื่อส่งให้ลูกค้าดู แต่ผู้เสียหายก็ไม่ยอมทำงาน เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ซึ่งนายจ้างก็เคยเตือนหลายครั้งแล้ว
ส่วนเรื่องเงินเดือน ตนเองก็ได้เงินจากนายจ้างตามปกติ แต่สำหรับกรณีของผู้เสียหายนั้น ก็คาดว่าได้รับเงินเดือนเช่นเดียวกัน และเวลานายจ้างให้เงินไปซื้อของ ก็มักจะเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ ไม่ได้คืนเงินทอนนายจ้างทั้งหมด และยืนยันว่านายจ้างไม่ได้ยึดบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ หรือห้ามติดต่อญาติพี่น้อง ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายก็ยังยืมโทรศัพท์มือถือของตนเองโทรหาญาติพี่น้องบ่อยๆ ส่วนเรื่องทองนั้น มีบางเส้นที่นายจ้างให้ผู้เสียหายนำไปขายจริง แต่ทองที่หายไปเป็นคนละเส้นกัน
สำหรับนิสัยใจคอของนายจ้าง ยืนยันเป็นคนจิตใจดี เวลาตนเองมีปัญหาอะไร ก็ช่วยเหลือมาตลอด ล่าสุดปู่ของตนเองถูกรถชนเสียชีวิต นายจ้างก็ช่วยติดตามคดีและดำเนินการเรื่องเรียกร้องเงินเยียวยาให้ เพียงแต่เป็นคนละเอียดเรื่องการทำงาน โดยในบ้านมีสาวรับใช้ 2 คน คือตนเอง และผู้เสียหาย ดังนั้นหลังจากนี้ตนเองก็กลับไปอยู่กับนายจ้างเหมือนเดิม เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายจ้าง และนายจ้างก็ดูแลดีมาโดยตลอด
ทั้งนี้ น.ส.แบม อ้างว่าหลังผู้เสียหายออกจากบ้านก็ไปอยู่กับอดีตแฟนหนุ่มของตนเอง หลังจากที่ตนเองเลิกรากับอีกฝ่ายได้ประมาณ 4 เดือน และตนเองก็เพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อคืนนี้ที่อีกฝ่ายโทรมาสารภาพ
ด้านนายสุทธิพันธ์ บุญโปร่ง ทนายความของนายจ้าง ยอมรับว่าเห็นคลิปที่นายจ้างตีผู้เสียหายหลายครั้งแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นพฤติกรรมที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งก็ได้พูดคุยกับนายจ้างแล้ว นายจ้างก็พร้อมยอมรับผิดและเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่ตีนั้น เกิดจากที่ผู้เสียหายตีสุนัขของนายจ้าง จนเป็นเหตุให้กระดูกสันหลังสุนัขมีปัญหา ต้องผ่าตัด เสียค่ารักษากว่า 2 แสนบาท จนกระทั่งตอนนี้อาการของสุนัขก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ
ส่วนกรณีสาดน้ำแกง ยืนยันว่าเป็นอาหารที่เตรียมไว้ถวายพระ ซึ่งนายจ้างค่อนข้างเข้มงวด เพราะต้องการถวายอาหารที่ดีที่สุดให้กับพระ แต่ผู้เสียหายกลับทำอาหารไหม้ จึงมีการเหวี่ยงอาหารทิ้ง และก็ไม่โดนผู้เสียหาย และไม่ใช่อาหารประเภทแกง แต่เป็นผัดผัก
ส่วนคดีลักทรัพย์นายจ้างนั้น จากการพูดคุยกับนายจ้าง ยังคงยืนยันว่ามีทรัพย์สินเป็นทองหายไป และภายในบ้านมีอยู่กันเพียงไม่กี่คน ไม่มีบุคคลภายนอกมาที่บ้าน เมื่อทรัพย์สินหายไปในช่วงเวลาที่ผู้เสียหายออกจากบ้านไป นายจ้างย่อมสงสัยได้ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการสืบสวนของตำรวจ
ส่วนที่ผู้เสียหายอ้างว่าไม่ได้เงินเดือนนั้น เชื่อว่าไม่เป็นความจริง แต่ลักษณะการจ่ายเงิน จะเป็นการที่ผู้เสียหายเก็บเงินทอนเวลาไปซื้อของให้นายจ้างไว้ และนายจ้างก็จะหักเงินนั้นออกจากเงินเดือนที่ต้องจ่าย หรือเวลาที่ผู้เสียหายมาเบิกเงิน นายจ้างก็ให้ ส่วนประเด็นเงินก้อน 2 แสน 7 หมื่นบาทนั้น เป็นเงินก้อนที่นายจ้างเคยพูดคุยว่าอีก 3 ปี จะเลิกทำธุรกิจ และจะจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้ พร้อมรถมือ 2 อีก 1 คัน เพื่อให้ไปตั้งต้นชีวิตใหม่ แต่ผู้เสียหายต้องทำงานต่อไปอีก 3 ปี
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับนายจ้าง รู้สึกได้ว่านายจ้างรักผู้เสียหายมาก เมื่อผิดก็อบรมสั่งสอน และยังส่งเสียให้เรียนหนังสือ ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา นายจ้างก็เพิ่งพาลูกจ้างทั้ง 2 คน ไปเที่ยวพูลวิลล่า ซึ่งก็เที่ยวกันตามปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น สภาพจิตใจของนายจ้างก็ค่อนข้างเครียด
Advertisement