ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (27 ก.พ.68) นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พาพยานคนหนึ่ง เป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ น.ส.ไนท์(ผู้เสียหาย)ภายหลังจากที่หนีอิกจากบ้านของนายจ้าง ซึ่งพยานคนนี้ เป็นเเฟนเก่าของ น.ส.เเบม ซึ่งเป็นสาวใช้อีกคนในบ้านหลังดังกล่าว เเละเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย รับรู้เรื่องที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด
โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจออกหมายจับนายจ้าง จากนั้นเพื่อนของผู้เสียหายคนหนึ่งติดต่อไม่ได้ คือ เเบม จึงมีความเป็นห่วง จากนั้น ผู้กำกับการ สภ.บางกรวย จึงได้เชิญ เเบม เพื่อนของผู้เสียหายมาที่โรงพัก ตนเองจึงได้สอบถามจากตัวของเเบม ซึ่งตอนเเรกเเบมอ้างว่าที่ติดต่อกันไม่ได้ เพราะถูกผู้เสียหายคือ น้องบี หรือ "ไนท์" บล็อกเฟซบุ๊ก ตนเองจึงให้แบมเอาโทรศัพท์ออกมาพิสูจน์ โดยการให้ทดลองกดบล็อกเฟซบุ๊กผู้เสียหาย เเต่ปรากฎว่ากดบล็อกไม่ได้ นั่นหมายความว่า เเบม เป็นผู้บล็อกเฟซบุ๊กผู้เสียหายเอง เเต่กลับอ้างว่าผู้เสียหายเป็นฝ่ายบล็อก
จากนั้นตนเองได้สอบถามเเบม ว่ารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการที่ บี ถูกทำร้ายหรือไม่ เเต่เเบมกลับย้ายฝั่งไปอยู่กับนายจ้าง เเล้วอ้างว่าไม่เคยรับรู้เรื่องดังกล่าวมาก่อน ทั้งที่ความจริง เเบมเป็นฝ่ายส่งข่างให้เเฟนเก่าทราบมาตลอด ว่าไนท์(ผู้เสียหาย)ถูกทำร้ายร่างกาย
สำหรับชายที่มาเป็นพยานวันนี้ คือ เอ(นามสมมติ) เเฟนเก่าของเเบม ได้ติดตามข่าวมาตลอด จึงติดต่อมาหาตน เพื่อยืนยันว่า น.ส.ไนท์(ผู้เสียหาย) ถูกทำร้ายจริง ๆ เพราะมีหลักฐานคลิปชัดเจน ตนเองจึงพาเป็นเเฟนเก่าของเเบม เพื่อนของสาวใช้ผู้เสียหาย มาให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จริงอีกด้าน มองว่า ไม่ใช่เป็นคนรวย นามสกุลดัง เเล้วไม่มีความผิด
ด้าน นายเอ(นามาสมติ) พยานที่เดินทางมา เผยว่า ในช่วงที่ตนเองคบหากับเเบม ที่เป็นเพื่อนผู้เสียหาย เเบมก็มักจะบ่นให้ตนฟังมาตลอด ว่าเพื่อเขาถูกทำร้าย เเล้วก็ส่งคลิปมาให้ดูด้วย โดยแบมได้มาปรึกษาตนว่าจะช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดี เพราะถ้าเขาเป็นฝ่ายเปิดเผยเรื่องราวนี้ก็จะเป็นอันตราย เพราะเขาเป็นคนถือโทรศัพท์ของนายจ้าง ที่มีวงจรปิด เขาพูดว่าอยากช่วยมาตลอด
กระทั่งช่วงเดือนมกราคม ตนเองได้เลิกรากับแบม แต่หลังจากนั้นเเบม(เเฟนเก่า)ก็ยังติดต่อมาหาตน บอกว่าไนท์(ผู้เสียหาย)ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายอีกแล้ว คราวนี้รุนเเรงมาก จะช่วยอย่างไรดี ซึ่งตนก็แนะนำให้ทั้งคู่หนีออกมา แต่เเบม(แฟนเก่า)บอกว่าจะให้ผู้เสียหายหนีออกไปก่อน แล้วตนจะหนีออกมาในภายหลัง โดยขอให้ตนช่วยผู้เสียหายก่อน เเต่สุดท้ายเเบมก็ไม่ออกมา ส่วนผู้เสียหายก็หนีมาขอความช่วยเหลือจากตน
ต่อมา เเบมโทรมาหาตน ขอให้ช่วยดูทรัพย์สินที่ติดตัวไนท์ให้หน่อย เพราะนายจ้างบอกว่ามีของถูกขโมยไป จากนั้นจึงเเอบดูกระเป๋าตอนผู้เสียหายลงไปข้างล่าง ก็พบเเต่เพียงเสื้อผ้า ไม่พบสร้อยทอง หรือทรัพย์สินของมีค่า ที่นายจ้างอ้างว่าถูกขโมยแต่อย่างใด
ส่วนที่เเบม ย้ายไปอยู่ฝั่งนายจ้าง อาจจะเป็นเรื่องเขามีศักดิ์เป็นญาติกัน เเละนายจ้างก็เคยช่วยเหลือครอบครัวของแบมด้วย
นายเอ กล่าวว่า "เเบม เขาก็น่าจะรู้ดี ว่าความจริงคืออะไร เพราะเขาเป็นคนที่มาขอความช่วยเหลือเอง ซึ่งตนก็ช่วยอย่างเต็มที่ รวมถึงต้องการความยุติธรรม เเละเห็นว่า น.ส.ไนท์ (ผู้เสียหาย) ก็เป็นมนุษย์คนนึง ออกมารักษาสิทธิ์ ที่ตนเองก็ถูกกระทำ"
นายเอ ยังชี้เเจงด้วยว่า ตนเองไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายในระหว่างที่คบกับเเบมเเฟนเก่า เเต่เพิ่งจะมามีความสัมพันธ์กันหลังจากที่เขามาขอความช่วยเหลือ
Advertisement