เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจ กก.5 บก.ปทส. นำโดย พ.ต.ท.บรรลพ สมพงษ์ สว.กก.5 บก.ปทส., ร.ต.อ.ปรุฬห์ สุวรรณเทียบ พร้อมกับ ชุดปฏิบัติการ 1 กก.5 บก.ปทส. ร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จังหวัดกาญจนบุรี จับกุมตัวผู้ต้องหา นายฟรานซิสโก สัญชาติ สเปน
พร้อมตรวจยึดของกลาง นากเล็บสั้น จำนวน 9 ตัว งูหลามปากเป็ดจำนวน 1 ตัว เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด บ้านพัก ต.เลาขวัญ อ. เลาขวัญ กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 11.00 น.
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุและจับกุมในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ได้รับคำสั่งให้ทำการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทางจากพลเมืองดี แจ้งเบาะแสขอให้ตรวจสอบชายชาวต่างชาติ ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวนรวบรวมข้อมูล ขออนุมัติศาลออกหมายค้น ในวันที่ 27 ก.พ.2568 โดยได้ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ จังหวัดกาญจนบุรี เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายบ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี โดยผลการตรวจสอบพบ มีนายฟรานซิสโก สัญชาติ สเปน เป็นผู้ดูแลพื้นที่ และรับว่าเป็นเจ้าของสัตว์ นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการแอบลักลอบเปิดเป็นฟาร์มเลี้ยง และเพาะพันธุ์สัตว์
ทั้งสายพันธุ์ไทย และสายพันธุ์ต่างประเทศ จำนวนหลายชนิดโดยไม่ได้มีการขออนุญาตตามกฎหมาย โดยทั้งนี้ได้ตรวจสอบพบว่าในจำนวนสัตว์ดังกล่าวมีที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองรวมอยู่ด้วย จึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ดำเนินคดีต่อไป ส่วนสัตว์ป่าของกลางที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดนั้น ได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวน ส่งมอบให้ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักอนุรักษ์ที่3 (บ้านโป่ง) รับไปดูแลตามขั้นตอนต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ และให้การว่าสัตว์ดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งซื้อมาเลี้ยงจริงและไม่ได้มีการแจ้งขออนุญาตแต่อย่างใด
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยพี่น้องประชาชนว่าการลักลอบเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Advertisement