วันที่ 1 มี.ค. 68 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมเครือข่ายบริษัท E-Money เถื่อน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ ลักษณะเป็นตัวกลางให้ผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ง่าย และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างมาก
โดยผู้ใช้บริการต้องสมัครสมาชิก และเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กับบริษัทฯ บนเว็บไซต์ พร้อมทั้งเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ไว้ล่วงหน้า ทำให้มีเงินจากภาคประชาชนหลั่งไหลเข้าไปในระบธุรกิจดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่การประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นการประกอบธุรกิจโดยมิจฉาชีพ มีการนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนได้เป็นวงกว้างเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.5 บก.ปอศ. จึงได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ในลักษณะดังกล่าว พบบริษัทที่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 ในรูปแบบการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 บริษัท
จากผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าทั้ง 5 บริษัทดังกล่าวข้างต้น มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเป็นการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสดจริง มียอดเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมิได้มีการขออนุญาตในการประกอบธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นกรณีจึงเป็นการประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รมว.คลัง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย จำนวน 4 จุดดังต่อไปนี้
· จุดที่ 1 : สำนักงานแห่งใหญ่ บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตามหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 93/2568 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
· ที่ 2 : สถานีขนส่งสินค้า บริษัท ในซอยเพชรเกษม 99 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน
· จ.สมุทรสาคร ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ค.67/2568 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
· จุดที่ 3 : บ้านหลังหนึ่ง ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหญ่ของ 4 บริษัท ตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 122/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 3 บริษัท และตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 131/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 1 บริษัท
· จุดที่ 4 : สถานีขนส่งสินค้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.105/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้าของ 3 บริษัท
ผลการดำเนินการสามารถดำเนินคดี และกล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดได้จำนวน 11 ราย พร้อมทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ PC จำนวน 6 เครื่อง และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ร่วมกันดำเนินคดีและกล่าวโทษกับกลุ่มผู้ต้องหา
1.นายธนเกียรติ อายุ 29 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 1 บริษัท
2. นายธนวัฒน์ อายุ 32 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 4 บริษัท
3.นายธิติพัฒน์ อายุ 30 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 1 บริษัท
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันการประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
สุดท้ายนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน ร้านค้า และสถานประกอบการ ให้เลือกใช้บริการ E -Money หรือการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตโดยต้องตามกฎหมายเท่านั้น รวมทั้งควรศึกษา และตรวจสอบเงื่อนไขของการใช้บริการด้วยความละเอียดรอบคอบก่อนการทำธุรกรรมทางการเงินทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินให้กับมิจฉาชีพ หรือได้รับสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่ตรงตามความต้องการ
ทั้งนี้หากท่านมีข้อสงสัยถึงการดำเนินการธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องโดยทันที หากต้องการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck
Advertisement