(1 มี.ค. 2568 ) ทีมข่าวลงพื้นที่ชุมชนสะพานร่วม 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณี ชายคลุ้มคลั่งใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอชาวบ้านบริเวณหน้ามัสยิดในชุมชน
ลุงทองสุข อายุ 65 ปี (ผู้บาดเจ็บ) หนึ่งในผู้ถูกทำร้ายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายแม่ของตนเองโดยใช้มือจับศีรษะกระแทกเข้ากับรถซาเล้งจนได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่เพิ่งละหมาดเสร็จพยายามเข้ามาช่วยเหลือ แต่ผู้ก่อเหตุขัดขืนและวิ่งหลบหนีไป อย่างไรก็ตามไม่กี่นาทีต่อมาเขากลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งและพุ่งเข้าทำร้ายตนเอง ด้วยการใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอ เคราะห์ดีที่บาดแผลไม่ลึกมาก หมอต้องเย็บ 3 เข็ม และระบุว่าโชคดีที่ไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเหตุสลด
ขณะที่ ภรรยาลุงทองสุข เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ นายสรรเสริญ (สงวนนามสกุล) มีอาการทางประสาทจากการเสพยาเสพติดหนัก โดยก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกับแม่ของตนเอง คาดว่าเป็นเรื่องเงิน เมื่อแม่ปฏิเสธจึงถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นนายสรรเสริญกลับมาและก่อเหตุปาดคอลุงทองสุขซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการแก้แค้นเพราะเข้าใจว่าลุงทองสุขเป็นคนห้ามตนไม่ให้ทำร้ายแม่
"คนนี้ถูกจับไปหลายครั้งแต่สุดท้ายก็ปล่อยออกมาเหมือนเดิมพวกเรากลัวกันมากเจอหน้าก็ต้องหลบไม่งั้นอาจเกิดเหตุร้ายได้" ภรรยาลุงทองสุข กล่าว
นายศอดรีย์ อิสลาม โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดสะพานร่วม 1 กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรง คือการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งไม่ใช่แค่ในสะพานร่วม 1 แต่รวมถึงสะพานร่วม 2 ด้วย "ตำรวจรู้หมดว่าใครเสพใครขายแต่ทำอะไรไม่ได้จับไปบำบัดแล้วก็ปล่อยออกมา สุดท้ายก็วนกลับมาเหมือนเดิม"
โต๊ะอิหม่ามเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดจริงจัง ไม่ใช่แค่เข้ามาตรวจตู้แดงหรือแสดงตัวเท่านั้น แต่ต้องจัดการปัญหาที่ต้นเหตุ
ขณะที่ชาวบ้านสะพานร่วม 1 ต่างหวาดระแวงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนรู้สึกว่าความปลอดภัยของพวกเขาถูกละเลยและอยากเห็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากกว่านี้
ส่วนแม่ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ลูกชายเคยเข้าบำบัดหลายครั้งแต่ไม่ดีขึ้นวอนหน่วยงานช่วยเหลือ
จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแม่ของผู้ก่อเหตุพบว่า เธอเป็นหญิงชราที่อาศัยอยู่ในชุมชนสะพานร่วม 1 มาเป็นเวลานานและต้องเผชิญกับปัญหาพฤติกรรมรุนแรงของลูกชายมาหลายปี โดยชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเคยถูกส่งตัวไปบำบัดยาเสพติดหลายครั้งแต่เมื่อกลับมาก็ยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าวและทำร้ายคนในครอบครัวเป็นระยะๆ โดยเฉพาะแม่ของเขาเอง ซึ่งหลายครั้งถูกทำร้ายร่างกายแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น
แม่ของผู้ก่อเหตุเคยร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน ขณะนี้เธออยู่ในอาการหวาดกลัวและต้องพึ่งพาชาวบ้านในการดูแลเพราะไม่สามารถปกป้องตัวเองจากลูกชายได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหนัก เป็นพยายามฆ่ากับผู้ก่อเหตุแล้ว
Advertisement