วันที่ 2 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากเพื่อนบ้านที่มักจะหลอนยา เมาแล้วโวยวายหาห่อยาบ้าไม่เจอ มักจะอ้างว่าชาวบ้านขโมยเอาไป อยากจะให้รัฐบาลมาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
นางสาวนุสรา อายุ 39 ปี ชาวบ้านบอกว่า ตนอยู่บ้านกับคนที่คลั่งไม่ไหวเพราะมักจะโวยวายและโต้เถียงข้ามรั้วกันเป็นประจำในช่วงที่เพื่อนบ้านเมายาบ้าโดยเฉพาะชอบตะโกนว่า ครอบครัวของตนขโมยยาบ้าไป
ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องชกต่อยกันกับเพื่อนบ้านคนนี้มาแล้ว เพราะเสพยาบ้าจนหลอนและหลายครั้งมักจะสะพายปืนลูกซองขี่รถผ่านไปมาคล้ายเป็นการข่มขู่ตอนนี้ต้องระวังอาวุธที่มีอยู่เช่นมีดหรือเคียวเกี่ยวหญ้า ก็จะพกติดตัวไว้ยามจำเป็นเผื่อมีการคลั่งเกิดขึ้น
ต่อมาหลังพ.ต.อ.อร่าม พุฒชาลี ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ทราบข่าวได้ให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวผู้ถูกกล่าวหาคือนายสุชาติวรรณศรีอายุ48ปีอยู่บ้านเลขที่51ม.9ต.ทองหลางอ.บ้านใหม่ไชยพจน์มาที่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ซึ่งจากการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าจำนวน 1 เม็ด ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง
ตำรวจจึงนำตัวมาสอบสวนเจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง เมื่อนายสุชาติ ยอมรับอย่างลูกผู้ชายด้วยท่าทีเกรี้ยวกราดว่า ตนซื้อยาบ้ามากักตุนไว้ที่บ้านครั้งละ100-200เม็ด ไม่จำหน่ายจ่ายแจก แต่มีไว้เสพและยอมรับว่าเสพวันละ 10 เม็ด
เพราะตนไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องการเงิน มีรถกระบะขับ มีเงินฝากธานาคารที่ได้จากการไปทำงานต่างประเทศไว้ 5-6 แสนบาท และไม่มีครอบครัว
เมื่อถามว่ากรณีที่เพื่อนบ้านบอกว่านายสุชาติ มักจะพูดอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้านั้น นายสุชาติบอกว่า”ถ้าไม่พูดคนเดียวจะไปพูดกับใครเพราะอยู่คนเดียวและกำลังฉ่ำกับยาบ้าอยู่”
หลังสอบสวนตำรวจตั้งข้อหาครอบครองยาบ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพขับยาบ้าส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement