ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแพ จังหวัดสตูล ร.ต.อ.นุกูลจิตร เพชรร้อย เวรสอบสวนใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการสอบปากคำนายอับดุลอาซีดยาวาหาบ อายุ 35 ปีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายเด็กชายวัย 2 ขวบ โดยเหวี่ยงร่างลงพื้นปูนภายในบ้านคลองลิดี ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จนเสียชีวิต
โดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าขณะกำลังเสพยาบ้า เด็กได้เข้ามาวุ่นวายทำให้เกิดความโมโห จึงจับเอวเด็กเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรงถึง 2 ครั้งและยอมรับว่าตั้งใจทำเพื่อให้เด็กเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามเมื่อรู้ว่าหลานชายเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหากล่าวว่า รู้สึกเสียใจไม่ได้ตั้งใจ และอยากขอโทษ พร้อมทั้งบอกว่ารักหลานทุกคน ก่อนที่จะพูดจาวกวนขณะถูกนำตัวเข้าห้องขัง
นางฟาตีมะ อายุ 30 ปี แม่ของเด็กผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องฟาคิน เป็นลูกชายคนที่ 5 ของสามีเก่า อายุเพียง 2 ขวบ หลังจากแยกทางกับสามีคนที่ 4 เธอได้ย้ายมาอยู่กับคนรักปัจจุบันที่บ้านเกิดเหตุเพียง 5 เดือนเท่านั้น น้องฟาคินเป็นเด็กน่ารักร่าเริงขี้อ้อน และตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ชายของสามีใหม่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาดูจะรักและเอ็นดูลูกชายของเธอมาก มักซื้อขนมให้เด็กเสมอ
"ดิฉันไม่ทราบเลยว่าในวันเกิดเหตุมีอะไรเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้ผู้กระทำผิดรับโทษให้ถึงที่สุด เพราะลูกไม่ได้ทำอะไรผิดเลย" แม้จะทราบว่าพี่ชายของสามีติดยาบ้า แต่ไม่เคยคิดว่าจะลงมือทำร้ายเด็กถึงเพียงนี้
ขณะที่รายงานทางการแพทย์ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เด็กมีอาการสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง
ด้านแม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยด้วยความเศร้าว่า ลูกชายของเธอเริ่มมีพฤติกรรมเกเรตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี และเคยใช้มีดไล่ฟันทั้งเธอและสามี (ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง)เพียงเพราะไม่ยอมให้เงินไปซื้อยาบ้า "รู้สึกเสียใจมากว่าทำไมทำกับเด็กได้ลงคอ เด็กบริสุทธิ์แม้จะมาอยู่ด้วยกันเพียง 3 เดือนก็รู้สึกรักและเอ็นดูน่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้"
พันตำรวจเอกปรีชา เพชรรัตน์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท่าแพ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว 7 ครั้งและเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าแพ เมื่อปี2566 แต่ขาดการรับยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลับมาเสพยาอีก
สำหรับคดีนี้ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนร่างของเด็กน้อยทางญาติไม่ติดใจในการตายและขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
ล่าสุดสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสตูลได้เข้าพบมารดาของเด็ก และพี่น้องอีกหนึ่งคน ที่ยังอยู่ในความดูแล โดยพบว่าแม่ ยังสามารถเลี้ยงดูลุกต่อไปได้และจะให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีลูกเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย
Advertisement