จากกรณี พบศพนายวัชระ นกงาม อายุ 52 ปี ชาว จ.ราชบุรี พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง มีถุงปุ๋ยและพลาสติกปิดบังร่าง ถูกทิ้งในป่ากระถิน ริมถนนหลวงหมายเลข 331 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยรอบมีร่องรอยการลากศพ-ล้อรถ เสียชีวิตแล้วมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่คุมตัวภรรยาไปเค้นสอบ เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง สุดท้ายเมียปริปากรับสารภาพว่า ร่วมกับลูกชาย วางแผนฆ่าสามี ก่อนกลับไปใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาเหตุมาจากเรื่องทรัพย์สิน
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ( 7 มี.ค.68 ) นายสกาย (นามสมมติ) อายุ 28 ปี น้องชายแท้ๆแม่เดียวกันกับ ของ นายวรยุทธ์ กลีบบัว หรือต้น อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา รวมถึงญาติพี่น้อง เดินทางจากอำเภอแก่งหางแมว จ.จันทบุรี เพื่อมาให้กำลังใจ นายต้น โดยทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้นถูกแม่หลอกให้ลงมือฆ่าพ่อเลี้ยง ส่วนเหตุผลอะไรนั้น ไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร แต่รู้ว่าที่ผ่านมา นายต้น รักแม่มาก ถึงขั้นยอมซื้อบ้าน และคอยดูแลแม่กับน้องตลอดที่ผ่านมา
นายสกาย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองกับพี่ชาย เป็นลูกแม่เดียวกัน ของนางรัตติกาล นกงาม หรือ แม่หมวย พี่ชายเพิ่งกลับไปอยู่บ้านที่อำเภอแก่งหางแมว ได้ 1 ปี โดยพ่อได้ยกสวนทุเรียนให้จำนวน 3 ไร่ เพื่อไว้ทำมาหากิน ที่ผ่านมา พี่ชายเป็นคนรักแม่มาก ส่วนตนเองอยู่กับพ่อ เลยไม่ค่อยได้พูดคุยกับแม่สักเท่าไหร่ หลังจากที่พ่อกับแม่เลิกรากัน ซึ่งขณะนี้ตนเองไม่เชื่อว่าพี่ชายจะเป็นคนวางแผนและลงมือ ฆ่าพ่อเลี้ยง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้พูดเพราะเข้าข้างคนผิด แต่เชื่อว่าพี่ชาย ถูกแม่หลอกให้ลงมือสังหาร พ่อเลี้ยง แต่ด้วยเหตุผลใดนั้น ตนเองยังไม่ทราบ แต่ก็ต้องขอโทษแทนพี่ชายและแม่ ในสิ่งที่ทำลง และขอให้เป็นไปตาม ขบวนการของกฎหมาย
ต่อมาเมื่อเวลา 11.45 น. พ.ต.อ.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมพนักงานสอบสวน ตำรวจชุดสืบสวน และ ตำรวจสายตรวจ ของ สภ.ห้วยใหญ่ ได้คุมตัว นางรัตติกาล นกงาม อายุ 46 ปี และ นายวรยุทธ์ กลีบบัว หรือต้น อายุ 30 ปี ( ลูกชายคนโต กับสามีคนแรก ) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดทิ้งศพ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 331 ( สัตหีบ - ฉะเชิงเทรา ) ฝั่งขาเข้าสัตหีบ หลัก กม.25 / 100-200 หมู่ 10 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย นายวรยุทธ์ กลีบบัว หรือต้น ให้การยอมรับว่าเป็นทั้งคนขับ รวมถึงเป็นคนอุ้มร่างศพผู้ตาย ไปทิ้งในป่ากระถิน ก่อนจะนำกระสอบปุ๋ยซึ่งอยู่ใกล้กับจุด มาปิดคลุมร่างของผู้ตายอำพรางศพ ซึ่งในวันที่ทิ้งศพ นายต้น ยืนยันว่าแม่นั่งรถมาด้วย โดยนั่งอยู่ที่แคปเบาะหลังคนขับ ส่วนคนตายนอนเอนตัวอยู่ที่เบาะหน้าข้างคนขับ
นอกจากนี้ ตำรวจได้พา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ต. มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นจุดที่ นำรถกระบะเข้าไปจอดพักในโรงรถของบ้าน แล้วนำผ้าห่มมาปิดคลุมรถ โดยปล่อยร่างผู้ตายนอนในรถ นานกว่า 15 ชม. ก่อนจะนำศพผู้ตาย ไปทิ้งบริเวณป่ากระถิน จนผู้มาพบศพดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ปรากฏว่ามีญาติๆ ของนายต้น และ ญาติๆ ของลุงเบื๊อก ผู้ตาย มายืนดูการทำแผนของตำรวจจำนวนมาก โดยญาติของฝ่ายนายต้น ได้ตะโกนให้กำลังใจนายต้นตลอดเวลา ซึ่งมีบางช่วงพบว่าญาติของนายต้น ปรี่เข้าไปต่อว่า นางรัตติกาล หรือเจ๊หมวย โดยจับใจความได้ว่า ( อีหมวยมึงพาน้องกูมาทำเ-ี้ยอะไร ) ขณะที่ฝ่ายญาติของ นายเบื๊อก ผู้ตาย ก็ตะโกนด่าสาปแช่ง เจ๊หมวย ต่างๆนานา ขณะที่ นางรัตติกาล หรือเจ๊หมวย ไม่มีใครมาเยี่ยม หรือสังเกตการณ์ แม้แต่คนเดียว
ด้านสารวัตรฝ่ายสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้เล่าถึงเรื่องราวสุดแปลก ให้ทีมข่าวฟังว่า ในวันที่มีการพบศพผู้ตาย ( 4 มี.ค. ) หากทุกคนจำได้ ก็คือ สารวัตรสืบสวนนายนี้เป็นผู้โทรศัพท์ ไปตามเบอร์ที่เจอในร่างของผู้ตาย ก่อนที่นางรัตติกาล นกงาม จะเป็นผู้รับสาย โดยสารวัตร ให้นางรัตติกาล รออยู่ที่บ้าน เดี๋ยวตำรวจจะไปรับ ตำรวจจึงเดินทางออกจากจุดที่พบศพเพื่อไปรับตัว นางรัตติกาล ที่บ้าน ในซอยนิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งเดินทางไปกันทั้งหมด 4 นาย
ระหว่างทางได้แวะกินข้าวข้างทาง ปรากฏว่า ระหว่างที่เดินเข้าไปในร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟมาทักว่า มากัน 5 คนหรือครับ ทั้งๆ ที่ ตำรวจมากันแค่ 4 นาย ขณะเดียวกัน ในวันที่ 5 มีนาคม ช่วงเวลาประมาณช่วงตั้งแต่ 17.00 - 18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นางรัตติกาล จะเปิดปากยอมรับสารภาพ ปรากฏว่าในเวลานั้นโรงพักเกิดเรื่องแปลกประหลาด เพราะมีทั้งเสียงหมาหอน รวมถึงไฟดับเป็นช่วงๆ ( เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ ) นานกว่าครึ่งชั่วโมง จากนั้นไม่นาน นางรัตติกาล ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าร่วมกับลูกชายฆ่าสามีตัวเอง.
Advertisement