โทษที่ผู้ต้องขัง หรือแม้แต่คนที่อยู่นอกเรือนจำหวาดกลัวคือ "ขังเดี่ยว" หากดูตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นการยกเลิก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 จะพบว่าตามกฎหมายฉบับปัจจุบันจะมีความแตกต่างกัน
หากดูกฎหมายฉบับปี 2479 มาตรา 35 กำหนดว่า เมื่อผู้ต้องขังคนใดกระทำผิดวินัย ให้เจ้าพนักงานเรือนจำผู้มีหน้าที่พิจารณาโดนถ่องแท้แล้วลงโทษสถานใดสถานหนึ่งหรือหลายสถาน โดย ข้อ 6 ระบุว่า "ขังเดี่ยวไม่เกินสามเดือน"
แต่ในกฎหมายฉบับปี 2560 เป็นการลดให้ขังเดี่ยวได้ไม่เกิน 1 เดือน โดยมาตรา 69 ระบุว่า "เมื่อผู้ต้องขังกระทำผิดวินัย จะถูกลงโทษสถานหนึ่งสถานใน ดังต่อไปนี้" โดยข้อ 6 ระบุว่า "ขังเดี่ยว" ไม่เกินหนึ่งเดือนเท่านั้น
ส่วนความผิดที่ผู้ต้องขังจะถูกขังเดี่ยว ในกฎกระทรวงกำหนดระบบการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง การควบคุมและแยกคุมขังและการย้ายผู้ต้องหา ข้อ 15 ระบุว่า
1. ผู้ต้องขังมีพฤติการณ์ที่อาจจะก่อเหตุร้ายหรือก่อความไม่สงบเรียบร้อยในเรือนจำ หรือมีเหตุพิเศษอย่างอื่น ให้แยกผู้ต้องขังคนนั้นไปรวมกับผู้ต้องขังประเภทอื่นหรือสถานที่อื่นภายในเรือนจำ
2. ผู้ต้องขังหลายคนในคดีเดียวกันให้แยกผู้ต้องขังแต่ละคนมิให้ปะปนกัน เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น และ
3. ผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคติดต่อ หรือโรคอื่นที่อยู่ระยะอันตราย ให้แยกผู้ต้องขังป่วยออกจากผู้ต้องขังคนอื่น
นอกจากนี้ข้อ 15 กฎกระทรวง เรื่องการดำเนินการทางวินัยผู้ต้องขัง พ.ศ.2563 ยังได้ระบุพฤติกรรมผู้ต้องขังที่จะถูกขังเดี่ยวว่า
1. เล่นการพนันโดยเป็นเจ้ามือหรือสมคบกับผู้อื่นเล่นการพนันตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป
2. ทะเลาะวิวาทตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป
3. เสพยาเสพติด
4. กระทำผิดเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามตามมาตรา 72 (1) (ยาเสพติด) หรือ (6) (คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ) หรือร่วมกันกระทำผิด ทั้งในฐานะตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน หรือผู้ได้รับประโยชน์จากสิ่งของดังกล่าว
5. พยายามหลบหนีหรือหลบหนีไปแล้วแต่ได้ตัวกลับคืนมา
6. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย
7. กระด้างกระเดื่องต่อเจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีตำแหน่งตั้งแต่ชั้นพัศดีขึ้นไป
Advertisement