วันที่ 11 มี.ค. 68 ศูนย์วิทยุ191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รับแจ้งจากที่ว่าการอำเภอเมืองน่านว่า ปลัดอำเภอจับกุมชายรายหนึ่ง อายุ 58 ปี พกยาบ้ามาที่ว่าการอำเภอจำนวน 6 เม็ด
โดยเจ้าหน้าที่อส. เล่าว่า วันนี้ได้ออกติดตามกลุ่มเป้าหมายผู้ค้า และผู้เสพตามนโยบายของจังหวัดน่านในพื้นที่ ต.สะเนียน พบตัวลุงเอ (นามสมมติ) อายุ 58 ปี กำลังขับรถอยู่บนถนน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เฝ้าระวังติดตามอยู่ จึงทำการเรียกตรวจและซักถาม ลุงเอยอมรับว่าเสพยาบ้า จึงนำตัวมาที่ว่าการอำเภอเมืองน่าน เพื่อจะดำเนินการเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยมีการค้นตัวอย่างละเอียด ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
แต่เมื่อจะดำเนินการตามขั้นตอน กลับพบว่า ลุงเอวัย 58 ปี ไม่ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนมา จึงพาลุงเอกลับไปที่บ้านเพื่อให้ลุงเอไปเอากระเป๋าเงิน พอไปถึงหน้าบ้านลุงเอ เจ้าหน้าที่กลับพบนายบี อายุ 40 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่จำได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่วิ่งหลบหนี โดยทิ้งยาบ้าไว้ 80 เม็ด โดยศาลจังหวัดน่านได้อนุมัติหมายจับแล้วเดินผ่านหน้าบ้านลุงเอพอดี จึงดำเนินการจับกุมนายบีได้เพิ่มอีกคน
โดยนายบียอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมาย ได้หลบหนีไปทำงานต่างจังหวัด เพิ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้
หลังได้จับกุมตัวนายบี และลุงเอได้นำกระเป๋าเงินเรียบร้อยแล้วจึงนำตัวกลับมาที่ว่าการอำเภอเมืองน่าน โดยมีนายธีราพร หมั่นแก้ว ปลัดอำเภอเมืองน่านดำเนินการ เพื่อจะส่งตัวลุงเอเข้าสู่กระบวนการบำบัด จึงขอเอกสารประจำตัว ลุงเอได้หยิบกระเป๋าออกมา โดยล้วงเอาใบขับขี่ เพื่อจะยื่นให้ปลัดอำเภอ แต่ที่หลุดออกมาพร้อมใบขับขี่เป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงซิปล็อก จำนวน 6 เม็ดหล่นต่อหน้าปลัดอำเภอ จึงดำเนินการจับกุมตัวลุงเอ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ด้านลุงเอ เล่าว่าติดติดยาบ้าโดยเสพวันละ2เม็ดตอนเช้าตนเสพไป2เม็ดแล้วเอายาบ้าที่เหลือไปซุกซ่อนไว้แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าซ่อนไว้ที่ไหนตนหามาครึ่งวันแล้วไม่เจอก่อนจะออกมาเพื่อมาให้อาหารหมูในสวนแต่กลับมาเจอเจ้าหน้าที่เสียก่อนจนมาเจอปลัดขอดูบัตรตนเอาบัตรออกมา เพื่อให้ปลัดดู แต่ยาบ้ากลับติดออกมาด้วย ตนจึงนึกได้แล้วว่า หลังเสพแล้วเอายาบ้าไว้ในกระเป๋าเงิน
เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวให้กลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement