วันที่ 11 มี.ค. 68 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.สุรัตนาวี สุวิพร หรือ โบ TK ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอนานกว่า 3 ชั่วโมงว่า การให้ข้อมูลในครั้งนี้สาระสำคัญไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งดีเอสไอได้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นของไทม์ไลน์ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ตนยืนยันว่ากระติกได้โทรศัพท์มาหาตอน 5 ทุ่ม หลังจากนั้นตนจึงติดต่อไปที่ บีม ศรัญยู, เจ เจตริน, เปิ้ลนาคร โดยติดต่อผ่านภรรยา บอกว่าให้ไปช่วยกันค้นหา แตงโม นิดา
นอกจากนี้ น.ส.สุรัตนาวี เปิดเผยอีกว่า ขณะที่ตนไปถึงที่เกิดเหตุได้เจอทั้ง 5 คน และพบว่ามีอาการเสียงดังตกใจสติแตก และเห็นว่ากระติกรับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นโทรศัพท์ของแตงโมหรือไม่ ส่วนเรื่องบาดแผลของคนบนเรือ ขณะนั้นตนไม่ได้สังเกต แต่มาทราบจากข่าวในภายหลัง
ส่วนประเด็นเรื่องการนำสวดขอพรพระเจ้า วันนั้นตนได้นำสวดพร้อมคนอีก 2 คนที่ท่าเรือเอ็นบีซี แต่จำเวลาไม่ได้ แต่อยู่ในช่วงระหว่างเวลาประมาณตี2- ตี3
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโม น.ส.สุรัตนาวี บอกว่า ตอนแรกเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นจะต้องมีอะไรพิสูจน์ว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่ใช่อุบัติเหตุ ตนก็มีคำถามที่ถามไปยังดีเอสไอ และเชื่อว่าหลายคนยังสงสัยคือแตงโมตกเรือจริงหรือไม่
ขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวได้นำคลิปเสียง ที่อ้างว่ามาจากกล้องหน้ารถในวันเกิดเหตุ ที่ น.ส.สุรัตนาวี ขับรถไปส่งกระติกที่บ้าน โดยเนื้อหาของคลิปมีการพูดในทำนองว่า “ไปเจอที่ปั๊มน้ำมันทำไม เอามาทิ้งแบบนี้เดี๋ยวใครก็เจอ สงสารมันว่ะ” น.ส.สุรัตนาวี ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงของตนเองแน่นอน
นอกจากนี้ที่ บีม ศรัญยู ได้ให้ข้อมูลว่าในวันดังกล่าว น.ส.สุรัตนาวี ได้แนะนำว่า ห้ามเปิดเผยเรื่องที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ เพราะห่วงภาพลักษณ์ของแตงโม และมองว่าแตงโมเป็นนางเอก จึงเชื่อว่าแตงโมจะไม่ทำแบบนั้น สำหรับความสัมพันธ์ของกระติก น.ส.สุรัตนาวี ยังเปิดเผยอีกว่า เพิ่งได้คุยแชตกับกระติกเมื่อวานนี้ (10 มี.ค. 68) แต่พูดถึงเรื่องการไปออกกำลังกายเท่านั้น ส่วนระหว่างนี้กระติกจะมีความเครียดอยู่หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่ได้พบหน้ากัน
Advertisement