หนู ฮกซุน อดีตพ่อบ้านแดน 5 เล่า 20 ปีก่อน คุกมีทุกอย่างยกเว้นผู้หญิง
หนูฮกซุน อดีตพ่อบ้านแดน 5 เล่าเรือนจำคลองเปรม 20 ปีก่อน ถ้าวันไหนของเข้านักโทษตีกันเละ ทั้งยา-มือถือเครื่องละแสน มีทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือผู้หญิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณี ที่ สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเหตุผู้ต้องขังทำร้ายตัวเองภายในเรือนจำ วันเวลารับแจ้งเหตุ 7 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 23.00 น. สถานที่เกิดเหตุ ห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อุทธนผล อายุ 43 ปี โดยระบุว่าผู้ต้องขังฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอภายในห้องขัง ซึ่งต่อมาญาติไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย
ซึ่งต่อมานายเผด็จ เร่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ได้ลงนามคำสั่งย้าย "นายสิทธิพร " พ้นจากตำแหน่งหัวหน้างานควบคุมแดน 7 หลัง พร้อมเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง ตามที่ได้เสนอข่าวมาก่อนหน้านี้นั้น
ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ “หนู ฮกซุน” อดีตนักโทษที่เคยถูกจำคุกตั้งแต่อายุ 14 ปี และเพิ่งได้ออกมาเมื่อปี 2566 ตอนอายุ 44 ปี ติดคุกนานรวม 17 ปี 4 เดือน
โดย “หนู ฮกซุน” บอกว่า ตอนที่เป็นนักโทษในเรือนจำคลองเปรม ตนกินหรูอยู่สบาย ไม่ได้ลำบากอะไร อยากจะนอนฟังเพลงไปพร้อมๆกับเสพยา ก็สามารถทำได้ เพราะเรือนจำไม่ใช่ดินแดนสนธยา แต่เป็น “ดินแดนศิวิไลซ์เท็กซัส” มีทุกอย่างยกเว้นผู้หญิงและอิสระภายนอก ตอนนั้นอายุยังน้อย ไม่มีงานทำ เข้าไปเรือนจำก็เพื่อทำธุรกิจค้าขายสิ่งของอำนวยความสะดวกภายในเรือนจำ ใครมีเงินก็มีทุกอย่าง เพราะผู้คุมบางคนที่ไม่ดี ก็จะรับเงินจากนักโทษ โดยตนเป็นพ่อค้าคนกลาง คอยติดต่อขายของข้างใน ตนอยู่มาทุกแดน และก็มีการทำธุรกิจทุกแดน แต่ละแดนก็จะมีหลายบ้าน (บ้าน=กลุ่ม) เช่น บ้านฝั่งธน ที่ตนเป็นหัวหน้าบ้าน ,บ้านปทุมธานี ,บ้านนนทบุรี และใครที่รู้จักกันก็จะไปอยู่ด้วย
ส่วนการทำธุรกิจนั้น จะทำเป็นสัมปทาน แต่ละบ้านจะไม่ค่อยยอมกัน หากมี ยาเสพติด หรือโทรศัพท์ เข้าบ้านใดบ้านหนึ่งก่อน ต้องมีการเจรจาตกลงแลกเปลี่ยนหรือยอมกัน เพื่อไม่ให้เกิดการ "ซาเวีย" กัน (ซาเวียคือการทะเลาะกับเพื่อนบ้านอื่น หากซาเวียกัน ก็จะโดนตีทำโทษ และแยกไปขังซอย
หนู ฮกซุน บอกอีกว่า ในเรือนจำไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน หรือแทงกันบ่อยมากนัก แต่จะมีช่วงที่ยาเสพติดเข้าเยอะๆ พอเสพกันก็จะเกิดอาการหลอน หูแว่ว และทำร้ายกัน บางคนไม่มีเงินจ่ายค่ายาก็หนี โดยการทำร้ายเพื่อนคนอื่น เพื่อขอขึ้นไปขังซอย
ส่วนโทรศัพท์นั้น ตอนที่ตนทำธุรกิจ ตนจ่ายให้กับผู้คุมที่เก็บเงินใต้โต๊ะ เคยสั่งเข้ามา 50 เครื่อง จ่ายเงินครึ่งล้าน จากนั้นก็จะขำมาขายให้กับนักโทษข้างในราคาสูงกว่าราคาจริง เช่น โทรศัพท์ C5 โนเกีย ราคาจริง 3,500 บาท ตนก็จะขายในราคา 85,000 บาท ,หากจอทัชสกีนราคา 90,000 ส่วนไอโฟนขายเครื่องละ 120,000 บาท ซึ่งขายไม่รวมซิม ซิมเปิดเบอร์ใหม่ จะขายซิมละ 1,000 บาท และให้ไปสมัครโปรเอาเอง
นายหนู บอกอีกว่า ตนเองไม่ได้ขายแค่ในแดนที่อยู่เท่านั้น ตนเองขายข้ามแดน จะมีนักโทษชั้นเยี่ยม ที่เรียกว่า “เรือ” และสามารถข้ามไปแดนอื่นๆได้ คอยรับออเดอร์มาให้ตนเอง ส่วนถามว่าของพวกนี้ เอาเข้าไปด้านในได้อย่างไร
หนู ฮกซุน บอกว่า จะซุกซ่อนเข้าไปกับรถงานต่างๆ ที่ขับเข้าไปด้านใน เช่น รถส่งข้าว รถก่อสร้าง ตอนนั้นเข้าไปเกือบทุกวัน แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้แล้ว เพราะผู้คุมที่ดี ไม่รับเงินก็มี จะคอยตรวจตราอย่างเข้มงวด
ส่วนแดน 5 ขังซอย ที่มีการอ้างว่า ผู้กำกับโจ้ ทำเรื่องของย้ายไปนั้น ตนรู้สึกแปลกๆ ตอนตนอยู่ เคยขอย้ายแดน 5 เพื่อไปหาเพื่อน ผู้คุมที่รับเงิน ไม่ยอมให้ย้าย ตนต้องขู่ว่าหากไม่ยอม จะไปกระชากโทรศัพท์เพื่อนคนอื่น และเอาไปให้หัวหน้าผู้คุม ผู้คุมคนดังกล่าวกลัว จึงยอมทำตามที่ตนร้องขอ
การจะย้ายไปแดน 5 และขังซอยแบบคนเดียว ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ปกติไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ขังซอยในห้องเล็กๆจะอยู่หลายคน และไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่ผู้กำกับโจ้ ทำไมถึงเดินออกนอกห้องได้ ซึ่งก็รู้สึกสงสัยหลายอย่าง แต่ก็เชื่อว่าไม่มีใครบังคับให้แขวนคอได้ คงถูกกดดันจากอะไรบางอย่าง แต่ขอไม่ออกความเห็นมาก เพราะไม่รู้เรื่องนี้
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ที่ออกมาพูดเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตนักโทษให้ดีขึ้น ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบที่ตนเองอยู่ ตนออกมาพูดไม่ได้ต้องการโจมตีใคร อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้คุมมีทั้งดีและไม่ดี
สำหรับหนูฮกซุน ติดคุกซ้ำซาก ติดมาแล้ว 7 ครั้ง รวม 18 ปี 4 เดือน
-คดีที่ 1 เมื่อปี 2540 อายุ 14 ปี เข้าบ้านเมตตา คดี ครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ - ไปเข้า 4 เดือน 10 วัน
-คดีที่ 2 ปี 2540 ออกมา 1 เดือน เข้าไปอีก คดีจำหน่ายยาเสพติด
-คดีที่ 3 ปี 2541 ครอบครองเพื่อเสพติด 6 เดือน
-คดีที่ 4 ปี 2541 จำหน่ายยาเสพติด ติด 2 ปี
-คดีที่ 5 ปี 2543 อายุ 18 ปี ลักทรัพย์ เปลี่ยนมาเข้าเรือนจำพิเศษธนบุรี 2 ปี (เลื่อนจากบ้านเมตตา)
-คดีที่ 6 ปี 2545 อายุ 20 ปี เรือนจำพิเศษธนบุรี คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สู้คดีชนะ ติด 3 ปี
และคดีที่ 7 ปี 2548 อายุ 23 ปี เรือนจำคลองเปรม คดีปล้น - ร่วมปล้น ตัดสิน 28 ปี ติดจริง 17 ปี 4 เดือน ออกมาเดือนพฤษภา 2566
Advertisement
