นางแก้ว (นามสมมติ) พร้อมกับเพื่อนผู้ปกครองเด็กนักเรียนจำนวน 7 คน และเด็กนักเรียนหญิงจำนวน 6 คน ในตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่หลานสาวพร้อมกับเพื่อนรวม 4 คน วิ่งหน้าตาตื่นตกใจร้องไห้เข้ามาสวมกอดและเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ถูกนายบุญสงค์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นครูสอนชั้น ป.4 และป.5 ทำอนาจารด้วยการใช้มือลูบคลำก้น,ต้นขาและหน้าอก นอกจากหลานสาวกับเพื่อนแล้ว ยังมีเด็กนักเรียนหญิงอีกจำนวนมาก ถูกครูคนเดียวกันกระทำอนาจารในลักษณะเดียวกัน โดยหลานตนเองยังยืนยันว่าถูกทำอนาจารมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 จนเลื่อนชั้นขึ้น ป.5 ครูคนเดียวกันนี้ยังคงทำเหมือนเดิม
ตนทราบเรื่องเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา จึงได้ร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อขอให้ดำเนินการลงโทษครูผู้ก่อเหตุ หลังผอ.รับทราบได้เดินทางมาพบผู้ปกครองด้วยตนเองที่บ้าน พร้อมสอบถามข้อเท็จจริง
ตนและเพื่อนผู้ปกครองรู้สึกไม่สบายใจกลัวเรื่องเงียบหาย จึงตัดสินใจรวมกันไปแจ้งความที่สภ.แก้งคร้อ ในวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้นำตัวครูผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวน โดยได้เชิญผู้ปกครองไปด้วย แต่แยกกันสอบปากคำ หลังสอบปากคำแล้วเสร็จได้ส่งตัวครูไปฝากขังที่เรือนจำภูเขียว แต่ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ครูผู้ก่อเหตุ ก็ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี ตนและเพื่อนผู้ปกครองรู้สึกกังวลและกลัวไม่ปลอดภัย เนื่องจากครูผู้ก่อเหตุเป็นบุคลที่มีหน้าตาในสังคม มีเงินมีทอง และรู้จักกับผู้ใหญ่หลายคน จึงตัดสินใจพึ่งสื่อมวลชน เพื่อขอให้ตรวจสอบและติดตามคดีนี้และสิ่งที่ตนยังคาใจคือการสอบปากคำเด็กนักเรียน ไม่ได้มีการสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชืพ ซึ่งตนกังวลว่าอาจจะเป็นช่องโหว่ที่อาจทำให้คดีนี้เด็กๆไม่ได้รับความเป็นธรรม
เด็กหญิงทั้ง 6 คน ต่างยืนยันและพูดตรงกันว่า ครูผู้ก่อเหตุรายนี้กระทำการอนาจารจริง จนเกิดอาการหวาดกลัวไม่อยากไปโรงเรียน เกรงว่าจะถูกลวนลามอีก เนื่องจากพฤติกรรมของครูคนนี้ไม่มีความเกรงกลัวต่อสายตาเด็กๆเลย บางวันสั่งให้ยืนต่อแถวส่งการบ้านให้ตรวจ พอเดินเข้ามาใกล้ก็จะลูบขา จับก้นและจับนม บางวันก็สั่งให้เข้าไปชงกาแฟในห้องส่วนตัว และถือโอกาสลวนลาม โดยทำแบบนี้มานานกว่า 5 ปีแล้ว
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน ออกมายืนยันว่าคดีนี้ ตนเป็นผู้บังคับบัญชาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนใดๆ เบี้องต้นหลังชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาได้รีบดำเนินการตามขั้นตอนทันที คือเดินทางไปรับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปกครองและเรียกครูผู้ที่ถูกกล่าวหามาทำการสอบถาม หลังจากนั้นได้รายงานทั้งวาจาและเอกสารต่อผอ.เขต 2 ให้ทราบ และต่อมาทาง ผอ.เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยไม่มีรายชื่อตนเป็นคณะกรรมการในชุดนี้ด้วย.
Advertisement