ผัวโหดยิงเมียดับต่อหน้าลูก-แม่ยาย ฉุดลูกเลี้ยงหนี หลังก่อเหตุย่ำยี
เร่งล่ามือปืน ผัวโหดยิงเมียดับต่อหน้าลูก-แม่ยาย ฉุดลูกเลี้ยงวัย 15 ปีหนี หลังทำพฤติกรรมทราม ก่อเหตุข่มเหงย่ำยี ก่อนขับรถหนี มุ่งหน้าจ.ศรีสะเกษ
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 68 พ.ต.ท.สุนทร พิมพ์พันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี รอง.ผกก.สส. พ.ต.ต.วีระพันธ์ บุญหนัก สว.สส. พ.ต.ท.ฐากร เขียนสะอาด สวป. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สมุทรปราการ แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างตรงที่นอนพบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมา น.ส.รัตติยา (สงวนนามสกุล) หรือ เมย์ อายุ 34 ปี อาชีพไรเดอร์ แต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำ นอนอยู่บนที่นอน มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าบริเวณหน้าท้องใกล้ลิ้นปี่ 1นัด และที่ศีรษะข้างซ้ายมีบาดแผลขนาดใหญ่ทะลุท้ายทอย 1 แผล ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอกตกอยู่บนที่นอน และหัวกระสุนจำนวน 2 นัดตกอยู่ใต้โซฟาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุคือนาย ชัยวสิต แก้วภักดี อายุ 42 ปี ที่ ซึ่งเป็นสามี มีอาชีพเซลล์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ โดยผู้ตายกับผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยกันมา 8 ปี มีลูกชาย 1 คน อายุ 10 ปี ส่วนผู้ตายมีลูกสาว 1 คนอายุ 15 ปีกับสามีเก่า โดยผู้ก่อเหตุกับผู้ตายได้แยกกันอยู่ประมาณ 3 ปีแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุได้กลับไปอยู่ที่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษกับลูกสาว และลูกชายทั้ง 2 คน
และก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกสาวเรียนจบที่ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาหาแม่ที่บ้านที่เกิดเหตุ จนลูกสาวมาบอกแม่ เล่าเหตุการณ์ตอนที่อยู่กับพ่อเลี้ยง ที่จ.ศรีสะเกษว่า ถูกผู้ก่อเหตุ หรือพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง จนมาวันที่ 12 มี.ค. 68 เวลา 20.00 น. ทางผู้ตายได้พาลูกสาวได้ไปปรึกษากับพี่สาวผู้ตายกับเหตุการณ์ที่ลูกสาวได้เล่าให้ฟัง ในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันที่ จ.ศรีสะเกษ จนมาถึงเมื่อเวลาประมาณ01.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 68 ผู้ก่อเหตุพร้อมลูกชายได้ขับรถกระบะเดินทางมาจาก จ.ศรีสะเกษ โดยนำรถไปจอดบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งเยื้องกับหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 500 เมตรแล้ว เดินเท้าพาลูกชายเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อถึงที่บ้านเกิด มีปากเสียงกันกับผู้ตาย ก่อนผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จำนวน 4-5 นัด ต่อหน้าลูกเลี้ยงและลูกชาย
หลังจากนั้นจึงได้บังคับลูกเลี้ยงขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟสีดำแดง หมายเลขทะเบียน 7กฆ9699 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่หน้าบ้านของผู้ตายขี่หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ หรือสามีจนไปพบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ที่บริเวณริมถนนประชาอุทิศ-คู่สร้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วจากนั้นผู้ก่อเหตุได้พาลูกเลี้ยงเปลี่ยนใช้รถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน 9กส6627 กรุงเทพมหานครหลบหนีต่อ เพื่อมุ่งหน้าไปจ.ศรีสะเกษ
ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจตามเส้นทาง เพื่อเร่งไล่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เพราะกลัวว่าลูกสาวที่ไปด้วยจะได้รับอันตราย
จากการสอบถามนางอาภา อายุ 70 ปี แม่คนตาย เล่าว่า ตนเองนอนอยู่คนเดียวชั้นล่าง เห็นหลานเคาะประตูเลยเปิดประตูให้เขา พอเปิดประตูปุ๊บผู้ก่อเหตุก็เข้ามายืนตรงหน้าโทรทัศน์ถามหาภรรยา ลูกสาวของตนเองได้เอาทะเบียนสมรสมาวางให้แล้ว เขาคุยอะไรไม่รู้ เอาปืนมายิงหัวยิงท้องของลูกสาวตนหลายครั้ง ตอนแรกผู้ตายนอนอยู่ข้างบนบ้าน พอลงมาข้างล่างมือปืนได้กระหน่ำยิงเลย เขาอยู่ด้วยกันนานแล้วผู้ตายประกอบอาชีพวิ่งไรเดอร์ ส่วนมือปืนทำงานเกี่ยวกับขายอะไหล่รถแถว จ.ศรีสะเกษ คุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไปๆ มาๆ มีการจดทะเบียนสมรสกัน มีปัญหาเรื่องหย่า ทะเลาะกันบ่อย ก่อนหน้านี้มีทำร้ายร่างกาย เอามีดจี้ เราเคยห้ามเกือบตาย
ขณะที่ น.ส.รัตติกาล อายุ 49 ปี พี่สาวคนตาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ทุ่ม น้องสาวกับลูกสาวมาคุยเรื่องคนก่อเหตุเคยข่มขืนลูกสาวคนตายอยู่บ่อยครั้ง หลานเพิ่งจะมาบอกแม่เมื่อวันจันทร์นี้เอง ก็เลยคุยกันว่าน้องสาวจะจัดการแจ้งความจับ เราไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะมา หลานสาวเป็นลูกของน้องสาว ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อเลี้ยง เขาไปอยู่ศรีสะเกษ 3 ปี ไม่รู้ว่าโดนข่มขืนตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนแรกแม่ก็ไปอยู่ด้วย ตอนหลังแม่เขากลับมาอยู่กรุงเทพฯ ส่วนลูกอยู่ที่นั่นปล่อยให้พ่อเลี้ยงเขาดูแล เพราะความไว้ใจให้น้องเขาเรียนที่นั่น พอจบม.3ให้ย้ายมาที่นี่ ผู้ก่อเหตุโมโหว่าจะไม่ให้มาอยู่ แต่หลานเคยพูดว่าพ่อมีปืน แม่เขามาหาที่ทำงานมาปรึกษาเรื่องลูกสาวโดนพ่อเลี้ยงข่มขืนว่าจะทำยังไงดี มารู้อีกทีว่าผู้ก่อเหตุมา ก็เลยรีบเปิดกล้องวงจรปิดในบ้านดู ก็เห็นมันยิงน้องสาวเลย
ตนตกใจมาก สติแตกด้วย น้องกลับมายังไม่ถึง 2 อาทิตย์เลย เพิ่งจะเล่าให้แม่ฟังเมื่อวันจันทร์ ก็เลยแนะนำให้เขาตัดสินใจ เพราะเขาเป็นแม่ เขาจะแจ้งความจับสามีเขา แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่รู้เรื่องนะ
ส่วนทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ และส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จากนั้นจะมอบศพให้ญาติแล้วไปดำเนินพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป
Advertisement
