จากกรณีที่มีชายเสื้อแดง วิ่งไล่ตามหญิงสาวขณะเดินกลับห้องพักภายในตึกเอื้ออาทร ย่านบางโฉลง อำเภอบสงพลี จังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งออกมาร้องสื่อ และชาวเน็ตแห่แชร์คลิปวงจรปิดเพื่อเตือนภัยและช่วยกันล่าตัว
โดยความคืบหน้าล่าสุด เพจต้นปราการออกมาโพสต์ระบุว่า มีชาวบ้านไปพบตัวผู้ก่อเหตุภายในซอยวัดมงคลนิมิตในพื้นที่ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการเมื่อช่วงตีหนึ่งที่ผ่านมา และจับตัวส่งตำรวจดำเนินคดีหลังจากที่ชาวเน็ตพบตัวชายคนดังกล่าว ปั่นจักรยานวนเวียนไปมาหลายพื้นที่ทั้งเขตบางพลี และบางเสาธง ทำให้ชาวบ้านต่างพากันผวาชายคนดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา09.30น.ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.บางพลี ได้คุมตัวนายมารุต อายุ 27 ปี หรือนายเต้ มาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยนายเต้ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุบุกไปประชิดตัวหญิงสาวผู้เสียหายจริง แต่ที่ทำไปนายเต้ อ้างว่า ผู้เสียหายจะดักทำร้ายเขาก่อน จึงจะลงมือทำร้ายร่างกาย
โดยนายเต้ บอกว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะถูกมารดาทำร้ายจิตใจมาก่อน เพราะตนเองเสพยาเยอะ จึงถูกไล่ออกจากบ้าน จนไม่มีที่ซุกหัวนอน ยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้าตั้งแต่อายุ 12 ปี ครั้งละหลายเม็ด ที่ผ่านมาจึงถูกพ่อแม่แจ้งจับมาหลายรอบ และถูกไล่ออกจากบ้าน ส่วนเงินที่ได้มาเอาไปซื้อยามาเสพ
นายเต้ให้การอ้างว่าไปรับจ้างเป็นพนักงานร้านน้ำแข็ง ซึ่งตนเองยอมรับผิดและอยากขอโทษผู้เสียหาย อยากขอโอกาส และอยากไปทำงานในอาชีพที่ฝันไว้คือรปภ.
ด้านพ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ระบุว่า จากการสอบปากคำนายเต้ ยังให้การวกวนไปมา แต่ก็พบว่ามีความจำดีจำเบอร์แม่เลี้ยงได้ จำชื่อ และบ้านเกิดได้ แต่ที่พูดวกวนไปมาเกิดจากการเสพยาเสพติด จนประสาทหลอน ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยสังคม ตำรวจจึงคุมตัวดำเนินคดีแจ้งข้อหาเบื้องต้นก่อนคือบุกรุกเคหสถานในยามวิกาล,ประพฤตนวุ่นวาย,ขู่เข็นทำให้ตกใจกลัว,และลักทรัพย์ผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสอบสวนอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายเต้ พบว่าถูกจับดำเนินคดีตั้งแต่อายุ 15 ในปี 2564 และถูกดำเนินคดีอีกหลายข้อหาตั้งแต่ปี2564 เรื่อยมาจนถึงปี 2567 ในความผิดทั้งเรื่องยาเพสติดบุกรุกลักทรัพย์ในท้องที่สภ.บางพลี สภ.บางเสาธง และสภ.บางปะกง
Advertisement