วันที่ 19 มี.ค. 68 ที่มูลนิธิรณณงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ผู้เสียหายนับสิบรายเดินทางเข้าไปร้องเรียนกรณี ครูสมาพันธุ์สอนอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ชักชวนให้ร่วมลงทุนเสียหายนับ 10 ล้านบาท
นางสาวเฉลิมรัตน์ อายุ 48 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เข้าเรียนกับครูคนดังกล่าวหลังจากเห็นโฆษณาหรือยิงแอดในเฟซบุ๊กให้ทดลองเรียนฟรีเกี่ยวกับคอร์สอสังหารัมทรัพย์ฟรี เช่นสอนการจัดสรรที่ดิน รีโนเวทบ้าน รีโนเวทคอนโด เมื่อเข้ามาเรียนครูคนดังกล่าว ก็ได้เชิญชวนให้สมัครเป็นสมาชิกรายปีและตลอดชีพ เพื่อที่จะได้คำปรึกษา โดยมีค่าคอร์สเรียนมีตั้งแต่ 7,900 - 50,000 บาท
หลังจากนั้นครู ก็ได้ชักชวนลงทุนอ้างนำเงินไปลงทุน ปล่อยเงินกู้ ลงทุนสร้างบ้านขาย แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทน ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มูลค่ารวมทุกคนกว่า 10 ล้านบาท
ด้าน นายศัลวิทย์ อายุ 57 ปี ทำธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผยด้วยว่า นอกจากชักชวนลงทุน ตนยังถูกครูคนดังกล่าวยืมเงินรวมกว่า 9.8 แสนบาท
โดยอ้างว่าลูกน้องไปขับรถชนต้องเคลียร์คดีให้ โอนเงินให้ ซึ่งครูบอกจะทำสัญญาและแปะโฉนดให้ แต่ภายหลังเสนอจะให้รถ แต่เลื่อนไปเรื่อยๆ จนผู้เสียหายต้องขอเงินคืน
ทั้งนี้เหตุผลที่เชื่อครูดังกล่าว ครูคนดังกล่าว มีประสบการณ์อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 ปี และเป็นอดีตนายตำรวจรวมถึงมีคำพูดตลอดเวลาว่า “ ไว้ใจครู ครูไม่โกง”
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลด้วยว่าหลังจากที่ลูกศิษย์บางคนมีการทวงถามเรื่องเงินคืน กลับถูกข่มขู่ว่าจะฟ้องด้วย
ส่วนนางสาวทัศนี อายุ 46 และนายเควิน อายุ 60 ปี ระบุว่า เสียหายจากการถูกชักชวนไปลงทุนกว่า 3 ล้านบาท และเคยไปดำเนินการฟ้องร้องแพ่งจนชนะคดีมาแล้ว แต่ครูคนดังกล่าวกลับเพิกเฉยไม่ยอมใช้เงินคืน จึงเดินทางมาร้องเรียน
นายเควิน บอกด้วยว่าอยากได้เงินคืน และอยากให้ครูคนดังกล่าวออกมารับผิดชอบ เพราะตนเองและผู้เสียหายอีกหลายคนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นายอภิชาติ ยศสมบัติ ทนายความที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า ในข้อกฎหมายครูคนดังกล่าว อาจมีความผิดเข้าข่ายลงทุนหลอกให้กู้ยืม เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและความคิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และอาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนความผิด พ.ร.บ.กู้เงินต้องรอดูว่ามีการเอาดอกเบี้ยมาล่อหรือไม่
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) เวลา 09.30 น. มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จะพาผู้เสียหายเดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง พล.ต.ท.ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินการด้วย
Advertisement