ดิว อริสรา ร่ำไห้ เปิดใจครั้งแรก ปมยืมของไม่คืน สูญกว่า 60 ล้าน

ดิว อริสรา ร่ำไห้ เปิดใจครั้งแรก ปมยืมของไม่คืน สูญกว่า 60 ล้าน ยอมรับใช้เงินเกินตัวจนทำให้มีวันนี้

จากกรณี ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจสาวชื่อดังได้ ออกมาทวงคืนทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านบาท หลังจากพบว่าทรัพย์สินบางชิ้นที่เธอให้ ดิว อริสรา ดาราสาวถูกนำไปจำนำและขายต่อ และยังไม่สามารถได้รับการคืนตามที่ตกลงกันไว้ หลังจากที่ได้พยายามติดต่อหลายครั้งและเคลียร์กับอีกฝ่าย

ล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.) เมย์ วาสนา ได้มาพูดคุยในรายการโหนกระแส พร้อมทนายความ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ ปี 67 ดิว อริสรา ดาราสาวเป็นหนี้ ซุงศตาวิน 20 ล้าน มีสัญญาการกู้เงิน ถ้าไม่ได้คืนจะถูกทางซุง แฉ จึงมายืมเงินมัดจำ 22 ล้านไปจ่าย ซึ่งระบบบริษัททำไม่ได้ เมย์ เลยให้เป็นของไปเพื่อไปวางเป็นหลักประกันกับคนๆนึงที่ทางซุงนับถือ และสุดท้ายมารู้ทีหลัง ว่าของไปจำนำที่อื่นแล้ว

โดยในระหว่างที่พูดคุย ทางรายการได้ต่อสายหา ดิว อริสรา คู่กรณี โดย ดิว เผยว่า เรื่องหมดที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวดิวเอง ต้องขอโทษพี่เมย์ ที่ทำให้พี่เมย์ต้องมานั่งอยู่ในรายการวันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่เมย์ไม่อยากทำ ดิว ยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงอะไรเลยนะคะพี่เมย์ เพราะพี่เมย์ คือคนเดียวที่ช่วยดิวในเวลานั้นจริงๆ และรายละเอียดที่พี่เมย์พูดมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะว่าตอนแรกดูเป็นคนไปขอความช่วยเหลือ

ตอนแรกที่ดิวขอไป ทางหุ้นส่วนดิว โดยระหว่างที่ดิว พูดนั้น เมย์ หลังน้ำตาร้องไห้กลางรายการ ก่อนที่ดิวจะพูดว่าพอเห็นพี่พูด ดิวก็จะร้องตามพี่แล้วเนี่ย

ดิว เผยต่อว่า ทางหุ้นส่วนเค้าเป็นคนออกความคิดเห็นให้ดิวไปพูดแบบนั้น ในการที่จะไปขอตรงนั้น มันไม่ใช่ว่าหุ้นส่วนไม่รู้นะคะ หุ้นส่วนรู้และหุ้นส่วนเป็นคนบอกให้หนูไปลองคุยแบบนั้น และหนูก็รู้ว่าหลังจากที่หนูคุยแบบนั้น พี่เมย์ก็พยายามช่วยจริงๆ เพราะจากที่ดิวย้อนไปดู พี่เมย์ได้ขอลองคุยก่อนว่ามีความเป็นไปได้มั้ย พอสุดท้ายมันเป็นไปไม่ได้พี่เมย์ก็เลยบอกว่า โอเคงั้นจะเอายังไง คือพี่เมย์ช่วยหนูจริงๆ

ซึ่งพอสุดท้ายแล้วเค้าช่วย มันก็คือจริงแหละค่ะ ที่มันอาจจะไม่เป็นไปตามนั้น ของมันถูกเอาไปวางไว้บางที่ก่อน ตอนแรก แต่ท้ายที่สุดแล้วตัวซุงเอง เค้าก็ต้องการเป็นเงินจริงๆ ดังนั้น ณ เวลานั้นที่ดิวไม่ได้บอกพี่เมย์ แล้ว ดิว คิดว่ามันเป็นวัตถุประสงค์ของที่คล้ายๆกัน เพราะพี่เมย์ต้องการที่จะช่วยหนูจริงๆ หนูก็เลยไม่รู้ว่าหนูจะต้องพูดอะไรไปมากกว่าการขอโทษ ขอโทษที่หนูเอาไปทำแบบนั้น

หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการ ถามว่าตัวเมย์เองเค้าอยากจะรู้ว่าของของเขาอยู่ที่ไหน

ดิว ยืนยันว่าของยังอยู่ครบ จริงๆแล้วทางพี่ทนายเค้าน่าจะเข้าใจความหมายหนูผิด หนูไม่เคยมีเจตนาที่จะไม่บอกว่าของอยู่ที่ไหน เพราะมันไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นแบบนั้นเพราะหนูเข้าใจตลอดมาว่า หนูกับพี่เมย์เราพยายามช่วยหาทางออกกันว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี พี่เมย์เค้าก็คุยกับหนูตลอด และที่ก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยออกมาพูดเลยเพราะว่าหนูคุยกับพี่เมย์ตลอด และพี่เมย์ก็บอกว่าเดี๋ยวเราหาทางร่วมกันนะ ซึ่งตรงนี้หนูยังขอบคุณเขาอยู่ในใจตลอด

ที่พี่ทนายพูดว่าหนูไม่เคยบอกว่าของอยู่ที่ไหน หนูไม่มีมีความจำเป็นที่จะต้องปิด ในตอนนั้นที่คุยและพยายามหาทางออกกัน หนูพูดจากใจเลยว่าบางทีคือมองหนูว่าสิ่งที่ดิวพยายามจะทำ ดิวไม่ได้พยายามที่จะทำให้ตัวเองถูก ในมุมดิวไม่ได้คิดแบบนั้น

ก่อนที่เมย์จะบอกว่า ถ้าจะคุยกับดิว พี่มีคำถามในสมองแค่แค่เรื่องสองเรื่อง พี่เคยคุยกับดิวว่าพี่มั่นใจว่าดิวจะเอาของมาคืนพี่แน่ๆ เพราะพี่มั่นใจว่าดิวจะไม่กล้าเสียพี่ไป เพราะพี่เชื่อว่า ดิวไม่สามารถหาคนแบบพี่ได้บนโลกใบนี้แน่ๆ

ดิว บอกว่าตอนที่พี่เมย์พูดแบบนั้น หนูก็จำได้ หนูก็ยืนยันจริงๆว่าหนูรู้

เมย์ บอกว่า ที่พี่รู้สึกและพี่เสียใจมากและจมอยู่กับมันแล้วพี่ต้องมานั่งร้องไห้ แกทำได้ยังไงวะ ตั้งแต่เอาของไป ครั้งแรก แกไม่เห็นค่าหัวใจพี่เลย แกดิสเครดิตพี่ และแกไปบอกคนอื่นว่าพี่ไม่มีเงิน พี่ออกมาอยู่คนเดียว ดิสเครดิตทุกอย่าง ว่าไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ มันทำได้ไง ที่พูดได้เลยว่านี่คือฟางเส้นสุดท้าย ทุกอย่างที่พี่ช่วยดิวมาตลอดและทุกอย่างที่พี่ฟังดิวมาตลอดนี่พี่โดนหลอกใช่ไหม นี่คือคำถามที่พี่ยังลบออกไม่ได้

ด้าน ดิวบอกว่า คนเดียวที่ดิวพูดว่าเป็นของของพี่เมย์ คือร้านนาฬิกาที่ดิวพูด อื่นๆไม่ใช่

ก่อนที่เมย์จะบอกว่า ดิวพี่เห็นแชตจริงๆ พี่เชื่อดิวในเดือนมกราตั้งแต่ที่ไปทานข้าว แล้วพี่ร้องไห้กับดิวแล้วพี่ก็เลือกที่จะเชื่อดิวต่อ ว่าน้องไม่ได้หลอกพี่ เงินพี่ก็อยากได้แต่สิ่งที่พี่อยากได้มากกว่าคือศักดิ์ศรีของพี่

ดิว เผยว่า ต้องบอกกับพี่เมย์ตรงๆว่าไม่รู้ว่าแชตนั้นเป็นแชตไหน ดิวเคยขอพี่เมย์ดูด้วยซ้ำว่ามันเป็นแชตอะไร กับใคร ดิวยังนึกไม่ออกเลยพี่เมย์ แล้วที่บอกว่าเอาสร้อยอันนั้นไป จริงๆนะสร้อยอันนั้นดิวไม่เคยส่งให้ใครที่เป็นผู้หญิงเลยนะ นอกจากนั้นสร้อยนี้ไม่เคยหลุดไปที่ใคร ก่อนที่ ดิว จะร้องไห้ แล้วบอกว่าพี่ไม่ต้องเชื่อดิวก็ได้ ดิวก็งงไง ตัวดิวรู้ตัวว่าดิวคุยกับใครบ้าง ยังงงเลยว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอ มีคน 10 คนที่ดิวกล้าไปคุยกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ มั่นใจเลยว่ามันไม่ใช่

ก่อนที่พี่หนุ่มจะถามว่าสรุปดิวจะเอายังไง

ดิว เผยว่า คือไม่ว่าเรื่องนี้มันจะเป็นยังไง ดิวก็ต้องยอมรับกับมันอยู่แล้วในสิ่งที่เป็นและดิวก็พยายามแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุดมาตลอด ทุกๆครั้งที่บอกว่าซื้อเวลา หนูไม่เคยซื้อเวลาเลย ทุกๆครั้งที่พูดว่าโอเคเดี๋ยวจะได้แล้วนะ มีคนจะมาช่วยแล้วนะ หนูมีความหวังทุกๆครั้งที่พี่คนพูดว่าจะมาช่วยหนู แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันก็กลายเป็นว่าดิวแถไปวันๆซื้อเวลาไปวันๆ ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้นหนูพยายามทำให้มันดีที่สุด หนูไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยที่จะทำแบบนั้น

ก่อนที่พี่หนุ่ม จะถามว่าตกลงกับซุงเคลียร์จบไปหรือยัง

ดิว บอกว่าเคลียร์จบไปแล้วค่ะ ในส่วนที่เค้าพูดว่า ติดที่ยังค้างอยู่ คือส่วนดอกเบี้ย ยืนยันว่าเป็นแบบนั้น ของซุงมันเป็นเงินทั้งหมด 12,500,000 ของรุ่นพี่ดิวคนนั้นเป็นเงินอีกประมาณ 7,000,000 กว่าบาท ซึ่งโดยรวมทั้งหมดมันประมาณ 20 กว่าล้าน ของตัวซุงที่จ่ายไปทั้งหมดมีสลิปโอนเงินทั้งหมดจ่ายครบแล้ว ที่เค้ามาตาม เค้ามาตามในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งในดอกเบี้ยตอนนั้นที่คุยกัน คือขอยืม 7 วันก่อน เพราะดิวรู้ว่าเงินดิวกำลังจะมา ดิวก็ขอยืมส่งก่อน 7 วัน พอ 7 วันดิวทำไม่ได้ ดิวก็เลยให้รุ่นพี่ ช่วยไปคุยให้กลายเป็นหนึ่งเดือน แต่ดอกเบี้ยตอนนั้นที่คุยกันไว้ 12,500,000 ดอก 10% ซึ่งสุดท้ายแล้วหนูก็พูดกับรุ่นพี่ของหนูตรงๆว่าในตอนนี้ คือชีวิตหนู มันก็ต้องมีครั้งหนึ่งที่แบบมันเป็นแบบนี้ มันมีปัญหา มันไม่มีทางออก

พี่หนุ่มถามว่า ดิว เอาเงินไปทำอะไร

ดิว เผยว่า คือที่เห็นหนูลงทุนทำธุรกิจหลายอย่าง แต่เอาเป็นว่าธุรกิจทั้งหมดที่ดิวทำไม่มีอะไรประสบความสำเร็จเลย ดิวยอมรับตรงๆเลยว่า ตัวหนูก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคม ที่ใช้เงินเกินตัวหรือเปล่า หรือประมาณตัวเอง จนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ดิวว่ามันถึงจุดที่มันต้องยอมรับแล้วว่ามันเป็นแบบนั้นนะ คือหนูคงใช้เงินเกินตัว แล้วไม่ประมาณตัวเอง บวกกับสิ่งต่างๆที่หนูทำ ในชีวิตและพยายามทำมันไม่ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้ตังค์ ในเมื่อมันไม่ได้ตังค์มันก็เลยทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ซึ่งทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นน้องซุง พี่คนนั้น หรือว่าใคร ทุกคนช่วยดิวหมด

พี่หนุ่ม กรรชัย พิธีกรถามว่า เงินที่ดิวเป็นหนี้อยู่ตัวเลขกลมๆประมาณเท่าไหร่

ดิว เผยว่า คือเงินทั้งหมดที่เป็นหนี้คือยอดที่ดิวเป็นหนี้กับพี่เมย์ แล้วก็มีเหลือรุ่นพี่คนนั้นอีกคนนึงที่ดิวยังติดเค้าอยู่ 1,000,000 กว่าบาทที่ดิวยังไม่ได้คืนเขา แต่อื่นๆที่มีเขาก่อนหน้านี้ หรืออะไรใดใดบอกได้เลยว่ามันเป็นการลงทุนร่วมกัน ดิวมีหลักฐานเหมือนกัน

หนุ่ม กรรชัย ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดิว ได้มีการปรึกษาสามีไหม

ดิว บอกว่าไม่ได้ปรึกษาค่ะ เพราะว่าเค้าไม่ได้มานั่งรับรู้เรื่องนี้ด้วย แล้วในมุมหนู หนูก็รู้สึกแบบ หนูรู้สึกว่าหนู ก็มีแค่ตัวหนู แล้วหนูเป็นคนก่อปัญหานี้มา หนูก็ต้องเป็นคนจัดการปัญหานี้ อีกอย่างหนึ่ง สำหรับสามีเค้าก็ไม่ได้รับรู้ ส่วนตอนนี้ถ้าเค้ารับรู้แล้ว เขาก็มีครอบครัวเขาที่มันเป็นระบบของครอบครัวเขา ส่วนตัวหนูเอง หนูก็ต้องดิ้นรนต่อไปเอง สิ่งที่หนูคาดหวังอย่างเดียวจากสามีเลย คือขอให้รักและดูแลลูกอย่างดี

ดิวจะไปขอให้ใครรักดิวและดูแลดิวอย่างดีได้ยังไง ความจริงมันเป็นแบบนี้ เราก็ต้องยอมรับในแบบนี้ หนูจะพูดว่าเอาตังค์มาให้หนูเหอะ ช่วยหนูเหอะอย่างนี้เหรอ คือเค้าก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว สิ่งที่เราคาดหวังจากเขา มันก็คือรักลูกเราให้มากๆ ดูแลลูกเราให้อย่างดี

ถามว่าแล้วหลังจากนาทีนี้ ดิว จะเอายังไงของที่จะต้องเอามาคืนคุณเมย์จะยังไงต่อ

ดิว เผยว่า คือหนูก็พยายามแก้ไขอยู่ หนูก็มีพี่ๆหลายคนที่เค้าพยายามจะช่วย แต่ตอนแรกที่ดิวคุยกับพี่เมย์ ว่าให้ดิวยอมรับสภาพหนี้กับพี่เมย์เลยไหม ไม่ได้มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนอาญาเป็นแพ่ง และหนูก็ไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ หนูอยากให้เค้าได้ของเค้าคืนและหนูกลัวของของเขาจะหลุดไป

สมมุติว่าดิวยอมรับรับสภาพหนี้กับพี่เมย์ เดี๋ยวก็พยายามจัดการให้แบบนั้น หนูสาบานว่าหนูไม่โกงพี่ หนูสาบานด้วยชีวิตครอบครัวหนู พ่อแม่หนู ลูกหนู เพราะเจตจำนงหนู มันไม่ได้มีความคิดว่าหนูโกงจริงๆ

ถามว่างั้นสมมุติว่าเมย์เค้าจะดำเนินคดีกับดิว เพื่อจะบีบให้ดิวเป็นผู้ต้องหา เพื่อให้วงต่อไปเอาของมาคืน แล้วดิวไปรับสภาพหนี้กันเอง ดิวโอเคไหม ดิวต้องตั้งใจฟังดีนะ ถ้าวันนี้ดิวจะถูกดำเนินคดี เพื่อที่คดีนี้มันจะได้ไปถึงคนที่เขารับของไป ฐานรับซื้อของโจร ของมันจะกลับมาอยู่ฝั่งของเมย์ แต่ขณะเดียวกันดิว ก็ต้องไปรับสภาพหนี้กับทางร้าน ดิวโอเคไหม

ดิว เผยว่า โอเคนะ ถ้าร้านเค้าโอเค

พี่หนุ่ม พิธีกรถามว่า ร้านก็ต้องโดนด้วย เพราะถ้าดิวถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง คนที่ผิดวงสอง ก็คือคนที่รับของของดิวไป หลังจากนั้นของมันก็จะกลับมาอยู่ที่เมย์ แต่ในส่วนของการรับสภาพหนี้ ดิว ก็ต้องไปตกลงกับร้านเค้าเอง

ก่อนที่ ดิว จะบอกว่า ดิว โอเค แต่อันนั้นมันหมายความว่า ดิว มีความผิดจริงถูกไหม

พี่หนุ่ม ตอบว่า ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ

ดิว ถามว่า ตอนนี้หนูมีความผิดจริง 100% เหรอพี่หนุ่ม นี่มันก็เป็นสิ่งที่หนูเคยพูดกับพี่เมย์ว่า ถ้าสุดท้ายมันต้องเป็นอย่างนั้น พี่ก็ต้องทำเต็มที่ หนูก็ต้องทำเต็มที่

ด้านเมย์ บอกว่า ถ้าสิ่งที่เราคุยกันเป็นตามในสิ่งที่ดิวพูดจริงๆ ก็เรียกทุกคนมา ไม่ต้องไปดำเนินคดีก็ได้ ถ้าทั้งสี่ท่านยอมให้ดิวเซ็นรับสภาพหนี้ พี่ก็จบ ถ้าพูดตามตรงนะ วันนี้ไม่มีใครอยากจะควักเงินตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นร้าน ไม่ว่าจะเป็นพี่เมย์ แต่พี่คิดว่าสิ่งที่พี่ทำ ณ วันนี้มันดีที่สุดแล้ว กับการที่พี่จะต้องควักเงินมาช่วยในก้อนสุดท้าย เป็นทางเลือกที่พี่ทำไม่ได้จริงๆ

ก่อนที่ดิว จะถามว่า พี่หนุ่มหนูขอถามหน่อยแล้วอย่างนี้งี้ คือหนูเป็นโจรไปแล้วหรอพี่

พี่หนุ่ม บอกว่า พี่ยังไม่บอกว่าหนูเป็นโจร พี่กำลังจะบอกว่าตัวหนูสามารถไปสู้ได้ในกระบวนการของกฎหมาย ในมุมของเมย์ เค้ามีหลักฐาน เขาสามารถที่จะแจ้งความเอาผิดดิวได้

โดย ดิว บอกว่าดิวสามารถบอกร้านได้ว่าของทุกอย่างอยู่ที่ร้านใดบ้าง

ก่อนที่พี่หนุ่มจะถามว่ามีของชิ้นหนึ่งอยู่ที่รัฐมนตรีท่านหนึ่งจริงหรือไม่

ก่อนที่ดิว จะบอกว่าของชิ้นนึงมันผ่านผู้ใหญ่คนนึงไป แล้วผู้ใหญ่คนนั้นก็น่าจะไปฝากไว้ที่รัฐมนตรีคนนั้น เป็นเรื่องจริงค่ะ

ก่อนที่พี่หนุ่มจะบอกว่าสามารถประสานได้ใช่ไหมรัฐมนตรี ก็เสียผู้เสียคนได้เหมือนกันนะ

ดิว บอกว่า ประสานไปที่ผู้ใหญ่คนนั้นได้ เค้าก็น่าจะพร้อมรับของมา

ก่อนที่ดิว จะบอกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไต้หวัน คือพรุ่งนี้ ทนายดิว จะเข้าไปที่กองปราบ เพื่อที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ แล้วเดี๋ยวจัดการทุกอย่างเสร็จ เดี๋ยวถึงไทย เท้าดิวเหยียบที่ไทยเสร็จปุ๊บ เดี๋ยวก็จะเข้าไปชี้แจงที่กองปราบ

ก่อนที่ดิว จะพูดว่า ดิวต้องขอบคุณพี่เมย์มากๆ หนูก็ยอมรับผิด หนูผิดคนเดียว หนูต้องขอโทษพี่เมย์จริงๆ หนูจะรับผิดชอบ จัดการให้พี่เมย์ได้ดีที่สุด สุดท้ายแล้วคือหนู พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จากพรีเซนเตอร์ที่หนูต้องได้เงิน เค้าก็เบรคหนูไปก่อน ก็ไม่มีทางกลับมาเคลียร์อะไรได้เลย เพราะมันเสียไปแล้ว ดิวก็พยายามดิ้นรนอยู่ แต่มันก็แทบไม่มี มันไม่มีอากาศแล้ว หนูไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง แต่หนูก็พยายามจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด หนูขอโทษพี่เมย์จริงๆ หนูขอบคุณพี่เมย์ และหนูรักพี่เหมือนเดิมนะ

ในส่วนของสังคม คนที่รักดิว ดิวต้องขอโทษที่ดิวอาจจะทำลาย โดยที่ไม่ได้คิดถี่ถ้วนอย่างดี จนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนคนที่ซ้ำเติมหรืออะไรใดใด สิ่งหนึ่งที่หนูอยากจะขอคือ อย่าไปพาดพิงถึงครอบครัวหนู ลูกหนู หรือสามีที่โดนข้อมูลแบบไปอะไรกับเขาที่มันไม่ได้เกี่ยวกับเขา อย่าไปอะไรกับลูกดิว เพราะเด็กเค้าไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย จนตอนนี้พวกเขาต้องมาอยู่ต่างประเทศ หนูขอจริงๆว่า ถ้าจะทำอะไรหรือพูดอะไร ดิวไม่ได้ปิดคอมเม้นต์นะ ก็ใส่ดิวไปเลยแต่ไม่ต้องใส่ลูกดิว ส่วนสิ่งที่ดิวทำ สุดท้ายแล้วผลมันจะเป็นยังไง ดิวก็ต้องต่อสู้ในมุมของให้ดีที่สุด หนูก็ต้องพูดย้ำอีกอย่างหนึ่งนะว่า หนูไม่เคยที่จะสู้กับพี่เมย์นะ เพราะพี่เมย์เป็นคนช่วยหนู แต่ถ้ามันไปถึงกระบวนการนั้น หนูก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด

ดังนั้นสำหรับสังคมก็ต้องขอโทษ ดูดิวเป็นแบบอย่างแล้วกัน ว่าบางอย่างที่เราทำเกินความสามารถของเราไป หรือไม่ประมาณตัวเอง มันก็จะทำให้เกิดผลแบบนี้ ก็ต้องขอโทษทุกๆคน แต่อยากให้ทุกๆคนเห็นใจด้วยว่า ชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้เป็นตามที่คิดทุกอย่าง ว่ามันจะสวยหรูทุกอย่าง มันขึ้นไปได้มันก็ลงได้ ซึ่งวันนี้หนูก็ลงมาถึงสุดๆแล้ว ดังนั้นขอความเห็นใจและขอให้หลายๆคนให้โอกาสหนูด้วย.

ขอบคุณภาพ-ข้อมูล : รายการโหนกระแส