จากกรณี เมย์ วาสนา หรือ วาสนา อินทะแสง หรือ มาดามเมนี่ ไฮโซสาว และนักธุรกิจพันล้าน แจ้งความ ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ดาราสาวชื่อดัง ในข้อหายักยอกทรัพย์นั้น
ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค. 68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง ทนายความของ ดิว อริสรา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
โดยทนายเอี้ยง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ดิว อริสรา ไม่ทราบว่ามีการแจ้งความไว้ที่กองปราบฯ จึงได้เดินทางไปดูลูกที่ไต้หวัน แต่พอทราบแล้ว จึงส่งตนมาเป็นตัวแทนเข้าพบพนักงานสอบสวน ในฐานะทนายความ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และในอนาคตหากถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็ยินดีเข้าให้ปากคำ พร้อมให้ข้อเท็จจริงทั้งหมด และทำตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ดิว อริสรา จึงยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ซึ่งคดีนี้มีทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายประกอบกัน และตามข้อกล่าวหาจะตรงกับข้อหาที่แจ้งหรือไม่ หรือจะเป็นเรื่องสัญญาทางแพ่งที่เป็นเหมือนการยืมของกันทั่วไป ก็ต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง
ส่วนข้อมูลว่า ดิว อริสรา ออกไปนอกประเทศเมื่อไหร่นั้น เท่าที่ตนทราบออกไปหลายวันแล้ว โดยไปจัดการเรื่องลูกที่ไต้หวัน และจากการประสานเบื้องต้นเจ้าตัวจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด เพื่อจะมาเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ โดยที่ส่งตนมาวันนี้ไม่ได้มาเล่นแง่หรือเอาชนะกันในทางกฎหมาย แต่มาเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ดิว อริสรา ได้ออกมายอมรับชัดเจนแล้วว่ามีการยืมของจาก เมย์ วาสนา จริง
พร้อมย้ำว่า ดิวรู้สึกขอบคุณ เมย์ วาสนา ที่มีบุญคุณช่วยเหลือในตอนลำบากแต่ทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาด ที่ไม่สามารถคืนทรัพย์สินที่ยืมมาได้ จึงต้องรับผิดชอบ หลังจากนี้ ดิว อริสรา ก็พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ซึ่งเมื่อวานนี้ ดิว อริสรา ได้พูดผ่านรายการหนึ่งว่า จะให้ช่องทางติดต่อร้านจำนำทุกร้าน เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนกับทนายของ เมย์ วาสนา ได้มีการแลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อของร้านแล้ว เพื่อเป็นการยืนยันว่าของแต่ละชิ้นยังอยู่ โดยขั้นตอนต่อไปอาจจะเป็นทั้งสามฝ่ายมาเคลียร์กัน หากของกลับคืนสู่ เมย์ วาสนา และดิว อริสรา ก็ต้องรับผิดชอบในราคาที่จำนำไว้กับร้าน เพราะแต่ละร้านข้อเสนอและข้อตกลงไม่เหมือนกัน อยู่ระหว่างการพูดคุย ย้ำว่า ดิว อริสราไม่มีเจตนาจะฉ้อโกง
โดยสาเหตุมาจากการไปลงทุนในธุรกิจ และไม่สามารถถอนเงินออกมา เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินได้ จึงนำสินค้าแบรนด์เนมที่มีมูลค่าสูงไปวางจำนำแทน ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาว่าดิวอริสรามีปัญหาทางการเงินก็เป็นเรื่องจริง จึงต้องนำของไปแก้ปัญหา โดยของที่ไปวางไว้ราคาต่ำกว่าราคาจริง เพราะดิวอริสราต้องการเงินแค่จำนวนที่เป็นหนี้เท่านั้น ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนทั้งหมด 21 ล้านบาท
ส่วนเรื่องรัฐมนตรีที่เป็นข่าว ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร เรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับ ดิว อริสรา มีแต่บอกว่าอยู่ที่รัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนที่ตำรวจบอกว่าจะเข้าข่ายปิดบังทรัพย์สินนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย และอยู่ที่เจตนาตั้งแต่ต้นว่าเป็นเจตนาทุจริตหรือไม่
หลังจากมีข่าว ดิว อริสรา ก็ยอมรับข้อเท็จจริง ยอมรับว่าพลาดในการใช้เงิน จนเกิดปัญหาทางการเงิน และขณะนี้ก็พยายามอย่างเต็มที่ ตนเองได้ประสานไปในหลายๆ ส่วน ทั้งผู้ใหญ่ที่ ดิว อริสรา นับถือ ก็เห็นใจและจะช่วยเหลือ หลังจากนี้หากมีการแสดงความพยายามอย่างจริงจัง เชื่อว่าเรื่องนี้จะจบด้วยดี แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ทราบว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อถามว่า เจ้าของทราบหรือไม่ ว่ายืมของไปจะนำไปจำนำต่อ ทนายเอี้ยง กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบ เมย์ วาสนา พยายามช่วย ดิว อริสรา โดยให้ทรัพย์สินไป เพื่อแก้ปัญหาทางการเงิน แต่เมื่อ ดิว อริสราได้ของไปแล้ว ปรากฏว่าเจ้าหนี้ไม่อยากได้ของ แต่อยากได้เป็นเงิน ดิว อริสราจึงจำเป็นต้องเอาของไปวางจำนำในที่ต่างๆ เพื่อได้เงินมาใช้หนี้ และเท่าที่คุย เมย์ วาสนา ก็รับทราบ แต่อาจจะมารับทราบในภายหลัง ซึ่งหลังจากนั้น ดิว อริสราก็มีการพูดคุยกับ เมย์ วาสนา มาโดยตลอด เพื่อนำของคืนมาให้ได้ แต่ติดขัดในเรื่องของเงินที่จะไปเอาของออกมา ส่วนนอกเหนือจาก เมย์ วาสนา แล้วยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกหรือไม่นั้น ตนรับผิดชอบแค่ในส่วนของมาดามเมย์ จึงไม่ทราบว่ามีผู้อื่นหรือไม่
สำหรับทรัพย์สินแบรนด์เนมส่วนตัวของ ดิว อริสราได้มีการเอาไปเปลี่ยนแปลงเป็นเงิน เพื่อนำไปใช้หนี้บ้างแล้วหรือยังนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ส่วนแบรนด์เนมของ ดิว อริสราจะยังมีอยู่หรือไม่ ให้รอฟังจากเจ้าตัว ทั้งนี้ทนายเอี้ยงย้ำว่า ไม่สามารถตอบได้ว่า ดิว อริสรา จะเดินทางกลับมาประเทศไทยวันไหน เจ้าตัวบอกเพียงว่าขอเคลียร์ปัญหาเรื่องลูกให้เสร็จก่อน
ส่วนที่สังคมกำลังขุดคุ้ยว่า ดิว อริสราเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หรือสิ่งผิดกฎหมายอีกหรือไม่ เท่าที่ตนทราบไม่มี กระแสข่าวมีออกมาเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติหากทำอะไรพลาดสังคมก็จะขุดคุ้ย ส่วนตัวไม่กล้าฟันธงว่าจริงหรือไม่จริง แต่หลายเรื่องเจ้าตัวยืนยันมาแล้วว่าไม่เป็นความจริง รวมถึงธุรกิจแลกเงินและได้เป็นเงินดอลล่าร์ปลอมก็ไม่ทราบในเรื่องนี้ นอกจากนี้เรื่องอุ้มหุ้นส่วนขังในโรงแรมตนก็ไม่ทราบ ทราบเพียงจากข่าวเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังไม่ได้คุยกับ ดิว อริสรา ในเรื่องนี้
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับดิวอริสราพบว่ามีความเครียด ร้องไห้เสียใจจากการทำพลาด ซึ่งมีเจตนาที่จะแก้ไขทุกอย่าง และอยากให้ เมย์ วาสนา ได้รับของทุกชิ้นคืนทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าตอนนี้ยังสามารถติดต่อ ดิว อริสราได้ และก่อนจะเดินทางมาก็ยังได้คุยกันอยู่ แต่ขอไม่โทรศัพท์หาตอนนี้ หากตัวดิว อริสราอยู่ในประเทศไทย ทุกอย่างจะง่ายมาก
ทนายยืนยันว่าการจะพยายามทำให้เป็นคดีแพ่งหรือไม่นั้นอยู่ที่ข้อเท็จจริงว่า ดิว อริสรากับ เมย์ วาสนา พูดคุยกันในลักษณะไหน ผิดว่าไปตามผิด
ส่วนในตอนนี้ ดิว อริสรา พอจะมีช่องทางที่จะนำเงินไปไถ่ของคืนได้บ้างหรือยังนั้น ทนายเอี้ยง ระบุว่า ตอนนี้ ดิว อริสรา มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ที่นับถือ และทีมทนายความ เชื่อว่าเจ้าตัวพยายามหาช่องทางอยู่ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะจบได้เมื่อไร กระบวนการทางกฎหมายหากมีการแจ้งความก็ต้องว่ากันไป ทั้งนี้ในฐานะทนายความยืนยันว่าจะแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกความ หากยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ ต้องแสดงความจำนงให้ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามีความพร้อมที่จะเข้าสู่ในกระบวนการแต่มีเหตุขัดข้อง พร้อมย้ำว่ากระแสที่ออกไปว่าหลบหนีนั้น ดิว อริสรา ไปก่อนที่จะทราบว่ามีการแจ้งความด้วยซ้ำ
ด้าน นายอรรถชัย แจ้งอรุณ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ เมย์ วาสนา เปิดเผยหลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามเสร็จสิ้นว่า วันนี้ที่ตนมาพบกับตำรวจคือเป็นการให้ปากคำเพิ่มเติมในการนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่าอาจจะมีบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมมือกับ ดิว อริสรา ในการกระทำดังกล่าว ซึ่งมองว่าอาจพัฒนาไปเป็นการเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงได้
แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนและศาลในการดำเนินการทางคดีว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ ตนเองขอไม่ให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติม ซึ่งทางคดีนั้นยังคงยืนพื้นการแจ้งความร้องทุกข์ที่การยักยอกทรัพย์ ฝั่งตนเองก็มั่นใจในพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พร้อมเน้นย้ำว่า "ประเด็นในคดีนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครพูดอะไร แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน"
สำหรับเรื่องของทรัพย์สินนั้น ตอนนี้มีหลายคนติดต่ออ้างว่ามีทรัพย์สินของ เมย์ วาสนา อยู่ในมือ แต่ตนเองยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเนื่องจากยังไม่เห็นทรัพย์สินที่แท้จริง ขอใช้เวลาในการตรวจสอบ เช่นเดียวกับประเด็นเรื่องของทรัพย์สินของคุณเมย์ที่อยู่ในมือรัฐมนตรีนั้น เมื่อวานนี้ก็มีนักการเมืองโทรมาเช่นเดียวกัน แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นใครและตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ
ส่วนเรื่องการถอนคดีนั้น หากว่ายังเป็นคดียักยอกและฝั่ง ดิว อริสรา ให้ความร่วมมือ รวมทั้งได้นำของทรัพย์สินมาคืนจนครบก็พร้อมที่จะถอนคดี เพราะยืนยันว่าฝั่ง เมย์ วาสนา ก็ไม่อยากที่จะเอาผิด และยังอยากให้โอกาส แต่เกรงว่าจะหมดอายุความ จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน พร้อมทั้งที่จะยินดีเจรจาทั้ง 3 ฝ่าย บนหลักการพื้นฐานง่ายๆ ว่า ใครที่เอาของใครไปก็แค่เอามาคืนเท่านั้น
หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ปรากฏว่านายอรรถชัยได้พบกับทนายเอี้ยง ทนายความของ ดิว อริสรา โดยบังเอิญ จากนั้นทนายเอี้ยงก็ได้เดินเข้ามาขอจับมือนายอรรถชัย ก่อนที่ทนายเอี้ยงบอกว่า "แจ้งความแล้วก็ไม่เป็นไร เรามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ" จากนั้นนายอรรถชัยพูดขึ้นทันทีว่า "รบกวนเอาของมาคืนเร็วๆ" ทนายเอี้ยงจึงบอกไปว่า เมื่อคืนคุณดิวเขาคุยกับคนที่เอาของไปไว้แล้ว เดี๋ยวก็จะเอามาคืนอยู่บางส่วน ตนพยายามรวบรวม คาดว่าจะจบในเร็วๆ นี้
Advertisement