หนุ่มขายบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตร์ ข้ามไปสแกนใบหน้าถึงปอยเปต
รวบหนุ่มวัย 24 ปี เปิดบัญชีม้าขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับข้ามไปสแกนใบหน้าถึงปอยเปต ประเทศกัมพูชา
เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้(23มี.ค.68) ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.หนองคาย,พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รองผกก.ตม.จว.หนองคาย และพ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพรหมณกุล รองผกก.ตม.จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตม.หนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี3(กก.1บก.สอท.3) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย(กก.สส.ภ.จ.หนองคาย) ได้ร่วมกันจับกุมนายลิขิต อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,โดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนโดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” หรือบัญชีม้ าตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่บริเวณริมถนนสาธารณะหน้าบ้าน พื้นที่หมู่ 3 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย การจับกุมครั้งนี้จนท.สอท.3 สืบทราบมาว่านายลิขิต มาพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตม.จว.หนองคาย และเจ้าหน้าที่สืบสวนภ.จว.หนองคาย วางแผนร่วมกันเข้าจับกุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปถึงพบชายต้องสงสัยมีรูปร่างหน้าตาตรงกันกับนายลิขิตฯ ยืนอยู่บริเวณริมถนนสาธารณะหน้า จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานสำคัญประจำตัวพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลดังกล่าว จริงจึงได้แสดงหมายจับอ่านให้ฟังและเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบพร้อมจับกุมตัวนำมาที่ตม.หนองคายเพื่อทำบันทึกจับกุม
สอบถามเบื้องต้นนายลิขิต ให้การปฏิเสธทุกอย่างจนกระทั่งยอมจำนนต่อหลักฐาน ยอมรับว่าตนได้เปิดบัญชีธนาคาร 2 บัญชีแล้วขายให้กับแก๊งมิจฉาชีพ(แก๊งคอลเซ็นเตอร์)จริง โดยขายให้บัญชีละ 5,000 บาท ได้เงินมา 10,000 บาท
จากนั้นเอเย่นต์ได้พาเดินทางไปที่ไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อสแกนใบหน้าในการโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนผ่านแอปธนาคารต่อมาเอเย่นต์แจ้งว่าบัญชีธนาคารของตนถูกอายัดหมดแล้ว ไม่มีใครใช้งานบัญชีของตนอีก ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางข้ามกลับมาประเทศไทยและได้มาอาศัยอยู่กับยายที่ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในครั้งนี้
ทางด้านยายของนายลิขิต(ผู้ต้องหา)บอกว่านายลิขิตที่เป็นหลานของตนชอบหมกตัวอยู่ในห้อง บางครั้งก็อาละวาดทำลายสิ่งของ แต่ยังดีที่ไม่เคยทำร้ายตน มีแต่ขู่ว่าเดี๋ยวจะฆ่าทิ้ง ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษาให้หาย และรับโทษนานๆ ตนจะได้อยู่แบบสบายใจไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกทำร้ายเวลาขอเงินตนไม่มีก็ต้องไปหยิบยืมเพื่อนบ้านมาให้เมื่อได้เงินก็จะไปกับเพื่อน 4–5 วัน เงินหมดก็จะกลับมาก่อนหน้านี้เจ้าที่ก็เคยนำตัวไปบำบัดประมาณ 14–15 วัน กลับมาก็ยังเหมือนเดิมตนอยากให้เอาไปนานๆเพื่อให้สำนึกและกลับใจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะได้ส่งตัวผู้ต้องให้กับพนักงานสอบสวนกก.4สอท.1เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Advertisement
