จากกรณีคนร้ายเป็นชายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณห้างทองชื่อดัง ภายในห้างสรรพสินค้า ริมถนนสายเอเชียขาออก ต.เชียงรากน้อย บางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือ สร้อยคอทองคำรวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค. 68 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ติดตามไปจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้พื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ ทองรูปพรรณ รถยนต์กระบะ อาวุธปืน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 มี.ค. 68) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเตรียมสถานที่ในการแถลงข่าวพร้อมนำของกลางเสื้อผ้าชุดที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ ทะเบียนอุบลราชธานี โดยจะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลา 11.00 น.
เบื้องต้นจากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิด จนพบความเคลื่อนไหวว่า มีรถยนต์กระบะมาจอดไว้ก่อนเกิดเหตุ และช่วงเกิดเหตุสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอนุมัติหมายจับ นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี (ทหารยศ พ.อ.อ.) ในข้อหา
1. ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกลุ่ม
2. พกพาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยอนุญาตให้มีวุฒิปืนติดตัวไป เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควร
โดยได้ติดตามไปจับกุมตัวพร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุอาวุธปืนรถยนต์กระบะ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ให้การยอมรับสารภาพว่ามีปัญหาในเรื่องของหนี้สิน พยามที่จะหากู้เงินเพื่อมาชำระหนี้สินแต่ไม่สามารถหาได้ ก่อนเกิดเหตุได้มาจอดแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ พบเห็นร้านทองเข้าออกได้สะดวกจึงกลับไปคิดและวางแผนอีกครั้งมาลงมือก่อเหตุ
Advertisement