จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ถล่มลงมา ภายหลังเกิด แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างของนายบุญรอด โอทาตะวงค์ หรือ หลอด อายุ 33 ปี แรงงานหนุ่มชาวนครพนม ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางซากปรักหักพังของอาคาร
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 6 บ.คำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมือง นายอุไร โอทาตะวงค์ วัย 62 ปี และนางสุดา โอทาตะวงค์ พ่อและแม่นายบุญรอด พร้อมญาติพี่น้อง และชาวบ้าน รวมทั้งผู้นำชุมชนจัดสถานที่รอการกลับมาของร่างที่ไร้วิญญาณของนายบุญรอด ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ส่งร่างตรวจพิสูจน์ยืนยันดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งร่างนายหลอดเดินทางมาถึงบ้านพักในเวลา 02.20 น. วันที่ 1 เม.ย. 68
นางสุดา แม่นายหลอด กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูก 5 คน มีเพียงนายหลอดลูกคนที่2 ยังไม่แต่งงาน ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวพ่อและแม่ ไม่มีที่นาจึงมีอาชีพไปรับจ้างทำนา และรับจ้างทั่วไป ลูกชายจึงไม่มีโอกาสเรียนหนังสือสูง จบออกมาขณะอายุ 15 ปี จึงไปฝึกเป็นช่างกับญาติพี่น้อง แต่ที่สบายขึ้นบ้างก็ได้อาศัยนายหลอดลูกชายคนนี้คอยส่งเงินมาให้ใช้เดือนละ 3,000 บาท ก่อนนี้ยังโทรคุยกับตนว่านายจ้างปรับค่าแรงให้วันละ 900 บาท ลูกชายยังบอกอีกว่าจะกลับบ้านอยู่พร้อมหน้ากันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้
นายอุไร พ่อนายหลอด กล่าวว่า ตอนเกิดลูกชายมีน้ำหนักแค่ 1 กิโลกรัมเศษ ตอนนั้นคิดว่าไม่รอดแล้ว แต่ก็รอดมาได้ จึงตั้งชื่อว่านายบุญรอด และชื่อเล่นว่าหลอด
ขณะที่นายคำตา พรมพิลา อายุ 58 ปี บ้านอยู่ตรงข้ามกัน กล่าวร่ำไห้น้ำตานองหน้าว่า ตนเป็นผู้รับเหมาหัวหน้างานของนายหลอด ทำงานด้วยกันมานานหลายปี ตนรับเหมา อาทิ ติดตั้งสปริงเกอร์บนหลังคา ช่างเชื่อมช่างประปาช่างไฟฟ้า หลังทราบข่าวว่าตึกถล่มก็ได้ภาวนาให้นายหลอดปลอดภัย แต่ก็ไร้ปาฏิหาริย์ต้องสูญเสียลูกน้องฝีมือดีไป
ด้านนายวินิจ มหาวงศ์ วัย 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจการจากไปก่อนเวลาอันควรของนายบุญรอด ในพื้นที่ของหมู่บ้านนี้ มีลูกบ้านเดินทางไปค้าแรงงานอาชีพช่าง และกรรมกรในตึก สตง.ที่พังถล่มประมาณ 20 คน แม้เป็นเพียงผู้ขายแรงงาน แต่ก็อดสงสัยถึงมาตรฐานวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง และความปลอดภัยทำไมจึงเกิดเหตุการณ์พังทลายรุนแรงลงมาทั้งหมดเพียงตึกแห่งนี้เท่านั้น
หลังญาตินำร่างนายบุญรอด ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านคืนนี้ จะมีพิธีทางศาสนา 2 วัน ก่อนจะเคลื่อนร่างไปฌาปนกิจ วันที่ 3 เม.ย. 68 ที่วัดในชุมชนใกล้บ้านต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนายหลอดแรงงานที่ค้นพบร่างแล้ว ยังมีนายจักรกฤษณ์ ศิลารัก หรือ จักร อายุ 17 ปี แรงงานชาวบ้านเดียวกัน ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านนายหลอดแค่ 500 เมตร และนายเอกชัย อินทรักษ์ หรือ จุ๊ ชาวบ.ดงน้อย อ.ศรีสงครามที่ยังสูญหายไม่พบร่างหลังเหตุการณ์ผ่านมา 3 วันแล้ว
Advertisement