เข้าสู่วันที่ 14 ของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารถล่ม ณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยเมื่อวานนี้มีการนำรถแบคโฮ รุ่น SK1000 เครื่องจักรหนักยักษ์ใหญ่ที่สุดในไทยมาประจำการในเกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย โดยการขนย้ายจากไซต์งานเอกชนมาจนถึงที่เกิดเหตุ ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง สำหรับรถแบคโฮ เป็นของบริษัท ปิยะมิตร กรุ๊ป จำกัด นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และพึ่งนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงเครื่องจักรก็ทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งคืนเพื่อค้นหาผู้สูญหาย และเพื่อค้นหาจุดต้องสงสัยเป็นโพรง หรือจุดที่คาดว่าจะมีผู้ติดค้างอยู่ภายในซากอาคาร โดยเน้นไปที่บริเวณโซน B และโซน C ซึ่งการค้นหาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 10 เมษายน ฝนตกหนักลงมาหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ รวมถึงเครื่องจักรใหญ่ ต้องหยุดปฏิบัติงานไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติงาน
แต่ทันทีที่ฝนหยุดตกในช่วงเวลา 2:30 น. รถแบค 120 ตัน ก็เริ่มดำเนินการ ใช้หัวตัดเหล็กขนาดใหญ่ ทำการรื้อถอนโครงสร้าง บริเวณโซน A เชื่อมต่อกับโซน C เพราะว่าสามารถยืดแขนได้สูงถึง 30 เมตร และอยู่ในจุดที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ก็เริ่มปฏิบัติการต่อทันทีจนถึงช่วงเช้ามืด และได้หยุดพักการใช้เครื่องจักรหนัก และรวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ก่อนที่เวลา 8.00 น. เครื่องจักรขนาดใหญ่รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้กลับเข้าไปปฏิบัติงานภายในไซด์งานอีกครั้งนึง
นอกจากนี้ ยังมีสุนัข K9 จาก United SAR K9 พาสุนัขกู้ภัยร่วมปฏิบัติการ ในเช้าวันนี้ ทั้งสิ้น 3 นาย ประกอบด้วย
ส่วนความคืบหน้าหลังจากนี้ เวลา 13.30 น. กทม. จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ให้กับผู้สูญหายและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัย เขตจตุจักร (บริเวณอาคารจอดรถ ภายในไซต์งานอาคารถล่ม) โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี
ส่วนช่วง 16.00 น. ที่เต็นท์ศูนย์พักพิงญาติผู้ประสบภัย มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ วันนี้ คุณสมพงษ์ คุนาประถม หรือ อี๊ด โปงลางสะออน จะมาเป็นกำลังใจให้กับญาติของผู้ประสบเหตุ ที่ยังรอคอยข่าวดีด้วยความหวังกัน
ยอดผู้เสียชีวิตเวลา 10.00 น.
ผู้เสียชีวิต 23 ราย
บาดเจ็บ 9 ราย
ผู้สูญหาย 71 ราย
Advertisement