วันนี้ (10เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.พ.ต.ท.สมพงศ์ วังเสน ารองผกก.สอบสวนสภ.ศรีเมืองใหม่ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191มีเหตุหญิงถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในร้านซ่อมรถไถ ตรงข้ามเทศบาลตำบลศรีเมืองใหม่ อำเภอศรีเมืองใหม่
ที่เกิเหตุพบร่างของนางศิริรัตน์ อายุ 40 ปี สวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้ากางเกงขาสั้นสีฟ้าแขนสวมเฝือกอ่อน นอนจมกองเลือดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมงใกล้กันพบนายวิชิต อายุ 45 ปี สามี สภาพเลือดท่วมหน้าและศีรษะ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบถามนายวิชิต ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุใช้เหล็กข้ออ้อยยาวประมาณ 1เมตรตีนางสาวศิริรัตน์ จนถึงแก่ความตาย เนื่องจากบันดาลโทสะ ที่ถูกนางสาวศิริรัตน์ ทำร้ายทุบตีอยู่เป็นประจำ โดยที่ตนเองไม่เคยตอบโต้เลยเพราะว่ารักภรรยามาก แต่ครั้งนี้มันเกินจะทน และอารมณ์ชั่ววูบจึงได้เผลอทำร้ายนางสาวศิริรัตน์ จนเสียชีวิต
นายวิชิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุการณ์เริ่มหนักมาตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากที่ตนเองเลิกงานรู้สึกเหนื่อย จึงได้ไปเที่ยวคาราโอเกะกับเพื่อนผ่อนคลาย แต่ถูกนางสาวศิริรัตน์ ตามไปอาละวาทที่ร้านคาราโอเกะ ทั้งทุบทั้งตีตนต่อหน้าคนอื่น ตนก็พยายามเดินหนี แต่ก็ถูกนางสาวศิริรัตน์ ตามมาตีหัวด้วยขวดเบียร์จนต้องเย็บไปหลายเข็ม
ต่อมาวันอังคารตนกำลังจะไปคาราโอเกะอีกครั้ง นางสาวศิริรัตน์ ก็ตามมาโวยวายและตีตนอีกครั้งนี้นางสาวศิริรัตน์ ใช้มือตีตนจนนิ้วหักต้องเข้าโรงพยาบาล พอตนตามไปดูที่โรงพยาบาลก็ใช้เท้าถีบตนต่อหน้าคนอื่นอีกหลายครั้ง
ล่าสุดเมื่อเช้านางสาวศิริรัตน์ ก็มาหาที่ร้านแล้วก็โวยวายไล่ให้ตนออกจากร้านไป ตนก็บอกว่าเดี๋ยวซ่อมรถเสร็จก็จะออกไป แต่นางสาวศิริรัตน์ ไม่พอใจไปเอามีมาไล่ฟันตนและตีเข้าที่เป้าตาอย่างแรง จนเลือดออก ตนพยายามห้ามอย่าทำแต่ก็ไม่เป็นผล ขณะนั้นเลือดเข้าตาและด้วยความโมโหจึงได้ขว้าเหล็กตีนางสาวศิริรัตน์ จนล้มและตีซ้ำไปอีก 2 ครั้งแน่นิ่ งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านนายสาโรจน์ อายุ 44 ปีเ พื่อนบ้านเล่าว่า สองผัวเมียนี้มักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ ส่วนใหญ่ตัวนายวิชิต จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดใจเย็นเวลาทะเลาะกันก็จะเดินหนี พออารมณ์ดีก็จะกลับมาทำงาน เป็นคนขยันช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 10.00น. ตนได้ยินเสียทั้ง 2 คนทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งลูกชายนายวิชิต วิ่งมาบอกให้ไปดูแม่ที่นอนจมกองเลือดก็พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวตนก็ไม่ทราบรายละเอียด
พ.ต.อ.เทวินทร์กล่าวเรื่องของทางคดีว่าเบื้องต้นจะได้ส่งร่างของนางศิริรัตน์ ไปชัยสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์อุบลราชธานี ก่อนจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนนายวิชิต พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนต่อหน้าทนายความพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นายวิชิตให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
Advertisement