จากกรณี นายบุญเกิด สิงห์เดชะ อายุ 33 ปี ก่อเหตุยิง ร.ต.ต.ไพไรจน์ พรหมอินทร์ รอง สว.(ป) สภ.เมืองเลย กลางสวนยางพารา ภายหลังเข้าจับกุม เนื่องจากสืบทราบมาว่า นายบุญเกิด รับจ้างกรีดยางบังหน้า เพื่อขายยาบ้า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 11 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ไปที่บ้านแม่ของนายบุญเกิด ที่บ้านกอไผ่โทน ต.กกดู่ อ.เมือง จ.เลย พบว่าเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น พบนางกองมา อายุ 66 ปี นายนริศ อายุ 65 ปี แม่และพ่อของนายบุญเกิด พร้อมด้วยญาตินั่งพูดคุยกันอยู่
นางกองมา เล่าว่า ไม่ทราบว่าลูกไปเกี่ยวข้องเรื่องยา ตอนออกจากเรือนจำเขาก็รับปากว่าจะเป็นคนดี พูดกับแม่ แม่ก็เชื่อลูก พอถึงวันนี้เพิ่งรู้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ เอากล่องยามาให้ดู พอรู้ข่าวว่าลูกชายยิงตำรวจตายก็สงสารเขา จะไปขอโทษเขาวันเผา แม่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดเหตุขึ้น อยากให้ลูกชายมอบตัว แต่ลูกชายยังไม่ติดต่อมา
จากนั้นแม่นายบุญเกิดได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปที่ห้องนอน หลังจากเมื่อวานตำรวจค้นกระท่อมสวนยางได้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 3 กระบอก ยาบ้าประมาณ 1,000 เม็ด จากนั้นมาค้นบ้านของนายบุญเกิด เจอยาบ้า ประมาณ 10,000 เม็ด ในห้องนอน ของลูกชาย ตำรวจจึงได้ตรวจเยอะ และนำแม่ไปสอบปากคำ
นายนริศ บอกว่าไม่ทราบเรื่องลูกชายเลย และไม่ค่อยได้พูดคุยกัน ไม่รู้จะติดต่อลูกอย่างไร เพราะไม่มีมือถือ แต่ก็อยากให้ลูกเข้ามอบตัว
นายสาคร สุติยะวัน อายุ 59 ปี น้าเขยนายบุญเกิด เล่าว่า เพิ่งจะทราบเรื่อง ตอนมีคนมาบอก จากการสอบถาม และคนในครอบครัวมีความคิดเห็นว่ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาหลาน ถ้าเข้าไปปกติก็คงไม่เกิดการต่อสู้ขึ้น แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงถือปืนเข้าไป ทำให้หลานตกใจยิงต่อสู้และหลบหนี มันเป็นสัญชาตญาณ ของคนป้องกันตัว ยอมรับว่าหลานเป็นคนดี และอยากให้หลานเข้ามอบตัว
นายสมเกียรติ จำปานิด ผช.ผญบ. กอไผโทน เล่าว่า ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ทาง ชรบ. ทำอะไร มีเพียงเมื่อวาน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่าสามารถทราบพิกัดในบุญเกิด หลบหนีไปที่ภูป่าซาง บ้านกำพี ต.กกดู่ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร นำกำลังไปปิดล้อม ค้นหา จนถึงเช้านี้ แต่ก็ยังไม่พบตัว ก็คงยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนอยู่ที่นั่น และมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่บ้านกอไผ่โทน
เวลา 12.00 น. ที่โรงพยาบาลเลย พ.ต.อ.วรชัย บางยี่ขัน ผกก.สภ.เมืองเลยได้นำร่างของ ร.ต.ต.ไพโรจน์ จากโรงพยาบาลเลย นำไปทำพิธีทางศาสนาที่ศาลา 2 วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) โดยจะมีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนตำรวจ นำร่างมาที่วัด เมื่อมาถึง ได้ช่วยกันยกร่าง ร.ต.ต.ไพโรจน์ ลงจากรถกู้ภัยเทวา โดยมีญาติติดตามมาด้วย จากนั้นนำร่างไปที่ตั้งภายในศาลา เพื่อรอพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยได้รับพระมหาธิคุณ จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
ร.ต.ต.หนูเหลี่ยม พรหมอินทร์ อายุ 77 ปี อดีตตำรวจ สภ.วังสะพุง พ่อของ ร.ต.ต.ไพโรจน์ เล่าว่า พอทราบว่าลูกเสียชีวิตก็สงสาร เพราะอยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่เล็กจนโต และมาชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ต้องเสี่ยงเป็นธรรมดา จนถูกคนร้ายยิง หรือปะทะกัน ก็ต้องยอมรับความจริง ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง มันมีแค่นั้นมันไม่มีอะไร ภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด เพราะให้ลูกเรียนจบปริญญาตรี มาเป็นตำรวจเหมือนพ่อ ภูมิใจในตัวลูกมาก ส่วนพิธีทางศาสนาจะทำกี่วันยังไม่ทราบ อยู่ที่ทางผู้บังคับบัญชาดำเนินการ
โดยมี พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผู้บัญชาการภาค 4 เป็นประธานพิธีน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผบก.ภ.จว.เลย พร้อม รอง ผบก.ภ.จว.เลย ผกก.สภ.เมืองเลย และข้าราชการตำรวจ ญาติผู้เสียชีวิต ร่วมพิธี
พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผู้บัญชาการภาค 4 เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจ ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะเป็นการปฎิบัติหน้าที่ และมีการนำเรื่องเพิ่มยศฯให้ ไปทาง สตช. พิจารณา ส่วนลูกผู้เสียชีวิต จะเข้ารับราชการตำรวจ ก็พิจารณาพิเศษ ส่วนการติดตามคนร้าย ตอนนี้ได้หารือประชุม โดยมี จนท.ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ โดยประสานไปยัง ตร.ตชด.24 อุดรธานี นำสุนัขดมกลิ่นมาช่วยติดตามคนร้าย
ส่วน พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผบก.ภ.จว.เลย ได้มีการตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท ผู้ที่ทราบเบาะแสหรือที่อยู่จนสามารถจับกุมตัว โดยแจ้งทางตำรวจในพื้นที่ หรือ 191
Advertisement