ยอดผู้เสียชีวิตตึกสตง.ถล่ม พุ่ง 41 ราย

เข้าสู่วันที่ 18 ค้นหาร่างผู้สูญหายตึกสตง.ถล่ม ล่าสุดพบเคสดำอีก 4 ร่าง รวมยอดผู้เสียชีวิต 41 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เข้าสู่วันที่19 ตึกถล่ม ส่ง 2ร่าง 24ชิ้นเนื้อตรวจสอบ มุ่งเน้นค้นหาโซนC

เจ้าหน้าที่ พบอีก 2 ร่าง โซน C รอยืนยันจากพิสูจน์หลักฐาน

ผงะ! เจอวิญญาณสวมเสื้อคนงาน สลดพบชิ้นส่วนมนุษย์ทุกโซน

บรรยากาศภารกิจการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน แห่งใหม่ หรือ สตง. แห่งใหม่ ช่วงเช้าวันนี้ (14 เมษายน 68) เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเช้ามืดวันนี้ เจ้าหน้าที่ DSI โดยทีมพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในพื้นที่ ก่อนที่จะกลับออกมาพร้อมหลักฐานที่ใส่ซองไว้จำนวนมาก เพื่อนำไปตรวจสอบขณะที่เวลา 07:12 น. รถเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าไปด้านในพื้นที่เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตที่ติดค้างในซากตึกที่พบเมื่อคืนนี้ออกจากพื้นที่ ก่อนส่งร่างตรวจสอบกับสถาบันนิติเวชตำรวจ

ต่อมาเวลาประมาณ 08:00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีม ลงพื้นจุดเกิดเหตุ เช่นเดิมอย่างทุกวัน ขณะที่ทีมค้นหายังดำเนินการค้นหาโดยใช้เครื่องจักรหนักสลับกับการใช้เจ้าหน้าที่เดินสำรวจ ซึ่งเครื่องจักรหนัก ได้หยุดทำงานไปเมื่อเวลา 04:00 น. และคาดว่าจะกลับมาทำงานอีกครั้งในช่วงเวลา 10:00 น.

ขณะที่เวลา 10:00 น. มีการอัพเดทจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 41 ราย ซึ่งพบล่าสุดเมื่อคืนนี้ 4 ร่าง เพศหญิง 1 ราย เพศชาย 1 ราย และไม่ทราบเพศ 2 ราย โดยพบร่างทั้ง 4 ร่าง ในโซน C ทั้งหมด ผู้บาดเจ็บ คนงาน 9 ราย ประชาชน 10 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวน 53 ราย

เวลา 11.00 น. วันที่ 14 เม.ย. 68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าจากเหตุการณ์ ตึก สตง. ที่ถล่ม กล่าวว่า ขณะนี้การปฏิบัติการค้นหา มีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี โดยเมื่อวานนี้ (13 เม.ย 68) มีการค้นพบเคสดำทั้งหมด 4 ร่าง โดยรวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดมี 41 ราย และมีความใกล้เคียงเกือบครึ่งหนึ่งของผู้สูญหายทั้งหมด ส่วนความคืบหน้าโดยรวมถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี

โดยในเรื่องความสูงของตึกที่ถล่มลงมานั้น ตอนนี้อยู่ระดับที่ 20.5 เมตร จากเดิมมีความสูง 26 เมตร เท่ากับว่าเราเริ่มทำด้านบนได้ดีขึ้น ถ้าหากเทียบจากการที่เจอเคสดำจะอยู่ที่ชั้น 24-29 ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่ามีคนงานอยู่เป็นจำนวนมากและอีกประมาณ 1-2 วันก็จะสามารถเจอผู้สูญหายเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะมีหลักฐานว่าในแต่ละโซนมีคนทำงานอยู่กี่คน โดยจากการสังเกตการณ์จุดชั้นสูงคาดว่าคนงานที่สูญหายอาจจะพยายามหนีไปทางบันไดหนีไฟไม่ทัน

ซึ่งการดำเนินการเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีอุปสรรคอะไร ส่วนประเด็นเรื่องของจำนวนพนักงานต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือ ของกทม.มีจำนวน 500 คน ส่วนภาคเอกชนจะมีการมาสับเปลี่ยนกัน แต่ถ้าภาคเอกชนมีอาสมัครจะเข้ามาช่วยเหลือทาง กทม. ก็ยินดี แต่ตอนนี้ไม่ได้มีการขาดแคลนกำลังคนในการค้นหาผู้สูญหาย

ส่วนในเรื่องของน้ำมันในการเติมเครื่องจักร ใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 5,000 กว่าลิตร/วัน อย่างไรก็ตามเครื่องจักรยังมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างก็ดำเนินการไปได้ด้วยดี

ในเรื่องของกำหนดการตั้งเป้าหมายเคลียร์พื้นที่ว่าปลายเดือน เม.ย. 68 นี้ แต่ไม่ได้เป็นการตั้งเป้าหมายขนาดนั้น เพราะเราต้องเคารพผู้สูญหายในการค้นหา เพื่อไม่ให้เป็นการไปทำร้ายร่างของผู้สูญหายไปมากกว่าเดิม และยืนยันว่าจะไม่มีการทิ้งผู้สูญหายไว้แม้แต่คนเดียว

อย่างกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ได้มีการขุดเจอในบริเวณ โซน C โดยเป็นการพบชิ้นส่วนของผู้สูญหาย จึงต้องมีการหยุดเครื่องจักรหนักเพื่อให้ทางด้านเจ้าหน้าที่ทำการกู้ร่างของผู้สูญหาย ซึ่งการที่เราพบเคสสีดำเพิ่มก็เป็นการสลับการทำงานระหว่างเครื่องจักรหนักกับเจ้าหน้าที่จึงเป็นการทำงานที่เป็นไปได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำหรับ ตอนนี้เป้าหมายหลักๆคือทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปในโซน B-C ที่เป็นจุดคาดว่าจะมีผู้สูญหาย เพราะเป็นโถงลิฟต์

ส่วนในเรื่องการที่เจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆจะมีผลกระทบกับการทำงานหน้างานหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า ไม่มีผลกระทบ เพราะทุกฝ่ายเข้าใจในการทำงานของกันและกัน ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ถ้าหากต้องการอะไรเพิ่มเติมซึ่งก็สามารถร้องขอมาได้ทันที

เมื่อถามว่า ระยะเวลาในการค้นหาผู้เสียหายเข้าสู่วันที่ 18 จะทำให้ชิ้นส่วนของผู้สูญหายย่อยสลายไปหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า เทคโนโลยีในตอนนี้มีความก้าวหน้าแต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการตรวจสอบ แต่ก็จะพยายามทำให้เร็วที่สุด และจะมีการให้ทางพิสูจน์หลักฐานเข้ามาช่วยเหลืออีกแรง เพราะผู้สูญหายแต่ละคนจะมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง เช่น เสื้อของบริษัทที่มีการสวมใส่ และจะสามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สำหรับในเรื่องของการพิสูจน์ตัวตนนั้น พฐ. ได้มีการเก็บหลักฐานไปบ้างแล้ว และผู้สูญหายเข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราต้องดูในเรื่องของ DNA เป็นหลัก

ทั้งนี้การทำงาน เป็นไปได้ด้วยดีและต้องขอขอบคุณอาสาสมัครทุกคน และทีมโดรน ที่คอยสังเกตการณ์และจับภาพอย่างละเอียด พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยโดยตลอด อีกทั้งยังเสียสละเวลาในวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์มาช่วยหาผู้สูญหายโดยบางคนก็ทำงานแบบปิดทองหลังพระแต่ทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่ออยากให้ผู้สูญหายได้กลับบ้าน

คอนเทนต์แนะนำ

สงกรานต์ใกล้ฉัน ! รวมพิกัดเล่นน้ำสงกรานต์ 2568 ปักหมุดทั่วกรุงเทพฯ

ด่วน! รวบแล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ

วันธงชัย เดือนเมษายน 2568 เช็กฤกษ์ดี วันมงคล มหาฤกษ์ มีวันไหนบ้าง ?