วันนี้ (16เม.ย.68) ที่บริเวณไซด์งานอาคาร สตง.ถล่ม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เข้ามาประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในช่วงเช้าวันนี้เพื่อติดตามสถานการณ์ ที่ศูนย์อำนวยการ และแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมี รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับและสรุปสถานการณ์การทำงานที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า การเข้ามาติดตามสถานการณ์ในครั้งนี้ เพื่อติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจะมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองผู้ว่า เป็นการทำงานหลักในการค้นหาผู้สูญหาย และขณะนี้ยังมีความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานตามขั้นตอนในการช่วยเหลือ
ในส่วนด้านกฎหมาย มีตำรวจนครบาลเข้ามาร่วมตรวจสอบทางคดีอาญา และได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องในข้อหา กระทำการโดยประมามเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งเป็นควาผิดทางคดีอาญา ตำรวจกำลังเร่งรัดดำเนินคดี ส่วนดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษเอาไว้ 2 เรื่อง คือ เรื่องการประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว (นอมินี) และการเสนอราคาต่อหน่วยงานจองรัฐ เฉพาะมาตรา 7 และมาตรา 8 ที่เกี่ยวกับเอกชน ยังไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะหากเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว จะต้องให้ ป.ป.ช. เข้ามาร่วมาสอบสวน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง พยานวัตถุ บุคคล และเอกสาร เพื่อใช้ในการใช้พิสูจน์
ส่วนสัญญาการก่อสร้างของอาคาร สตง. หลังนี้มีสัญญาอยู่ 4 สัญญาที่สำคัญ คือ สัญญาการจ้างออกแบบ เพราะกรมโยธาธิการและผังเมืองไม่ได้เป็นผู้ออกแบบให้ สัญญาควบคุมงาน สัญญาการเปลี่ยนแบบ และสัญญาการก่อสร้าง ซึ่งมีกิจการร่วมค้าเป็นผู้ร่วมก่อสร้างกับบริษัท อิตาเลี่ยนไทย และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด ร่วมกันทำงาน ซึ่งทางดีเอสไอ ได้สัญญามาเฉพาะเรื่องการจ้างออกแบบก่อสร้าง ที่พบว่ามีนอมินีเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนอีก 3 สัญญา ยังไม่ได้มา อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง เพราะทั้งหมดต้องใช้เป็นส่วนของทั้งคดีอาญา และคดีพิเศษ
วันนี้ก็ได้มารับฟัง และพบว่าการบริหารงาน การเก็บวัตถุพยาน ได้ทำกันอย่างมีเอกภาพค่อนข้างดี เพราะไม่ได้ทำเฉพาะกองพิสูจน์หลักฐานอย่างเดียว แต่ใช้เป็นหน่วยงานกลางประสานงานให้หน่วยงานที่เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเข้ามาร่วมตรวจสอบ ทั้งเรื่องเหล็กเส้น และอื่นๆ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
พันตำรวจเอกทวี ยังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อมมั่นในระบบราชการของประเทศ ทางกระทรวงยุติธรรมจะต้องทำให้ความจริงให้ปราฏ และต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอบคุณทางกทม. ที่ร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็ง
ส่วนเรื่องการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนนั้น ผู้ที่เข้ามาให้การทุกเรื่อง เจ้าหน้าที่ต้องฟังทุกคน และจะนำมาพิสูจน์ด้วยพิยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็จะนำมารวบรวมทุกชนิด พร้อมยืนยันว่าจะติดตามผู้กระทำความผิดให้มาดำนเนิคดีให้ได้ รวมทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่า มีการปลอมลายเซนต์ในสัญญาต่างๆ ก็จะต้องส่งตรวจพิสูจน์ลายมือเพิ่มเติมด้วย กรอบเวลาการตรวจสอบเชื่อว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องคดีนอมินี ที่มาจดทะเบียนธุรกิจ ต้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาร่วมตรวจสอบ เชื่อว่ากำลังตรวจสอบเช่นกัน
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกู้ซากตึกถล่ม โดยระบุว่า เช้านี้สามารถลดยอดของซากตึกถล่มลงมาเหลือ 14 เมตร จากความสูงเมื่อวานนี้ที่ 16 เมตร โดยกระบวนการทำงานเมื่อทยอยหั่นความสูงออกก็จะเจอปูน พอเอาปูนออกก็จะเจอเหล็ก เป็นเหล็กที่ถักกันเป็นแพ ไม่ใช่เหล็กเส้นอย่างเดียว ซึ่งค่อนข้างยากลำบาก โดยหลังจากนี้จะปรับกระบวนการทำงานให้ทีมใช้ถังออกซิเจนเข้าไปตัดเหล็ก ซึ่งจะต้องหาพื้นที่เรียบและมั่นคงเพื่อวางถังออกซิเจน และเมื่อนำทีมเข้าไปด้านใน เครื่องจักรจะต้องหยุดทำงาน โดยวางแผนไว้ 2 ช่วงแรกตี 4-7 โมงเช้า และช่วงที่ 2 เที่ยงถึงบ่ายสอง เพื่อนำเศษปูนและเหล็กออก
ส่วนฝนที่ตกไม่ได้เป็นอุปสรรครบกวนพื้นที่ด้านใน ทางสำนักระบายน้ำได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วโดยกั้นน้ำให้มีเส้นทางเดียวเพื่อนำไปฆ่าเชื้อให้สะอาด และโรยปูนขาวก่อนระบายน้ำออก
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตตอนนี้ยังเท่าเมื่อวาน เจ้าหน้าที่ยังคงนำชิ้นส่วนออกมาเป็นระยะ แต่กระบวนการในการตรวจสอบทางนิติเวชต้องให้มั่นใจเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด จึงขอให้เข้าใจว่าช่วงนี้ตัวเลขอาจจะปรับช้า
Advertisement