“พีช” สำนึกผิดขอโทษลุงกับป้า ยอมรับคิดน้อย ขอโอกาสสังคม
“พีช” สำนึกผิดขอโทษลุงกับป้า ยันไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดอุบัติเหตุ ด้านนายกฯเบี้ยว ขอโอกาสให้ลูกกลับตัวกลับใจ
นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) พร้อมด้วยนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เปิดใจครั้งแรก หลังเกิดเหตุขับรถเก๋งหรู ชนรถคุณลุงคุณป้า จนชนกับขอบทางบาดเจ็บ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยนายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช บอกว่า ก่อนอื่นพีชต้องขอโทษ ก่อนเลย วันที่เกิดเหตุการณ์ผมตกใจมาก และก็ไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงจนถึงขั้นคุณลุงกับคุณป้าสาหัส ผมจึวหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อนก่อน ไม่ได้ติดต่อใครเลย ใครโทรมาก็ไม่ได้รับสาย เพราะตกใจมากกลัวว่ามันจะเป็นปัญหา และกลัวว่าทางคุณพ่อ จะรู้เรื่องและจะต่อว่าเราด้วย
ขณะเดีบวกัน พีช ชี้แจงถึงคลิปต้นเรื่องที่ถูกกระบะสีดำ เบียดขณะออกมาจากหน้าด่าน ว่า รถตนถูกเบียด จนรถครูดกับแบริเออร์ ซึ่งรถมีรอยอยู่
ส่วนที่สังคมถามว่าเมื่อเห็นรถคุณลุงเบียดมาแล้วทำไม ตนเองถึงไม่ชะลอ ยืนยันว่าตนเองชะลอแล้ว แทบจะหยุดเพราะชนกับแบริเออร์ ซึ่งตอนนั้น ตนเองขับมาประมาณ 80-100 กม./ชั่วโมง ยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเร็ว ซึ่งตนเองก็คิดว่านาทีนั้น คุณลุงจะไปตามเส้นประหรือเลนของคุณลุง ไม่คิดว่าจะมาเบียดในเลนของตัวเอง
ส่วนคลิปที่มีการขับไล่กันนั้น พีช ชี้แจงว่า หลังจากที่ถูกรถคุณลุงเบียดและรถตนเองได้ชนกับแบริเออร์ อยากให้จอดรถมาคุยกัน ตนจึงพยายามขับรถดักหน้ารถไว้ทั้งซ้ายและขวา จนกระทั่งตีคู่ และลดกระจกโบกให้คุณลุงจอด พอคุณลุงกับคุณป้าเปิดกระจกแล้วก็รู้แล้วว่าเป็นคนแก่ ซึ่งตนก็บอกว่าจอดครับจอด ตอนนั้นตนขับรถมือเดียวและอีกมือหนึ่งโบกรถอยู่ พอหันหน้ามาอีกครั้ง รถตนก็ไปอยู่ในเลน ของรถคุณลุงคุณป้า ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนรถคุณลุงคุณป้าแล้ว ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีเจตนา เพราะต้องการแค่ ให้หยุดมาคุยกัน
และยอมรับว่าการกระทำของตนเอง เป็นการกระทำที่ไม่ดี แต่ตนเองไม่ได้มีเจตนา ที่จะทำให้คุณลุงคุณป้าบาดเจ็บ และย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจชน เพราะถ้าหากตั้งใจชน คงชนไปตั้งแต่แรกแล้ว
“พีชไม่ได้มีเจตนาที่จะชนหรือว่าทำร้ายใครให้เกิดอุบัติเหตุเลย เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และหลังจากรถคุณลุงคุณป้าเกิดอุบัติเหตุผมก็ถอยหลังรถกลับมาเพื่อจะดูแล ว่าอาการสาหัสแค่ไหน เพราะมันชนแรงมากเลยครับ ซึ่งตอนที่ผมลงมาดูผมก็ตกใจมาก เพราะคุณลุงซี่โครงหัก และคุณป้าบาดเจ็บ”
ส่วนหลังเกิดเหตุที่มีคลิปเกิดการโต้เถียงกับพลเมืองดี และอ้างว่าพ่อผมเป็นนายกญบ้านอยู่เทศบาลธัญบุรี พีช ชี้แจงว่า ตอนนั้นพูดออกไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ และยอมรับที่ผิด ที่พูดออกไปแบบนั้น ซึ่งตอนนั้นมีอารมณ์โกรธที่คุณลุงไม่ยอมจอด
“หากรู้ว่าคนที่อยู่ในรถเป็นคุณลุงคุณป้า และยกมือไหว้ขอโทษแล้วเหตุการณ์คงไม่เกิดขึ้นแบบนี้ เพราะผมก็รู้สึกผิด และตอนนี้ผมก็เครียด เพราะรู้ว่าเขาอายุเยอะ และเราก็มานั่งนึก ถ้าเป็นพ่อแม่เราบ้างก็รู้สึกผิด พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ คุณลุงคุณป้าด้วยครับ”
ส่วนการเยียวยา ผู้บาดเจ็บ พีช บอกว่าจะดูแล เรื่องค่ารักษาพยาบาลค่าซ่อมรถ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ต้องคุยกันอีกครั้งว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือไม่
เมื่อถามว่ารู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ พีชบอกว่า รู้สึกครับ และอยากจะบอกว่า “อยากจะขอโทษว่าสิ่งที่ทำไป อารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้คิด และคิดน้อยมาก ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอโทษ ผมพูดได้แค่ว่าขอโทษ ผมรู้สึกสำนึกผิด พูดเยอะไปผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้แต่พูดว่าผมขอโทษผมสำนึกผิด อย่างสุดซึ้ง ก็หวังว่า ตัวผมจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และขอโอกาสกับสังคมให้โอกาสผม อย่าว่าอะไรผมมากเลย (พร้อมกับยิ้ม) เพราะบางครั้งผมก็มีความคิดและรู้สึกไม่ดี แล้วจากนี้ ก็คงจะขับขี่ให้ดีกว่านี้ ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต”
ขณะที่นายกฯเบี้ยว บอกว่า รู้ข่าวเช้าอีกวันหนึ่ง ที่สื่อ และนักข่าวโทรเข้ามือถือ ซึ่งผมก็บอกว่าผมยังไม่ทราบเพิ่งเห็นข่าว แต่ขอเวลา จะโทรหาน้องพีช ตามหาน้องพีช ก็พยายามโทรแต่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนเองในฐานะพ่อก็ร้อนใจ คุยกับลูกน้องให้ลูกน้องช่วย เพราะอยากจะรู้ว่าสาเหตุเป็นอะไรยังไง แต่ตามตัวไม่เจอ แต่มาเจอตัวตอนประมาณทุ่มกว่าๆ ซึ่งเราเห็นสภาพลูกเราแล้ว ผมเข้าใจ ซึ่งก่อนที่จะเจอลูก ผมก็เห็นคลิปต่างๆ การขับรถแต่ละคลิป เราก็เห็นแล้วก็เข้าใจ แต่ในเมื่อลูกเราผิดพลาด จะไปซ้ำเติมก็คงไม่ได้ เราก็ปล่อยให้เขาสบายใจเอาเขากลับมาบ้านและค่อยถาม ซึ่งตอนแรกเขาก็บอกว่าเขาถูกปาดหน้า แล้วเขาก็ขับรถตามคุณลุง หวังจะให้คุณลุงจอด และก็จะมาคุย แต่ มือหนึ่งขับมือนึงกวักมือ ทำให้รถเสียหลัก ไม่มีเจตนารถจะไปตบรถคุณลุง ซึ่งผมก็ค่อยๆคุย ซึ่งตอนแรกเขาก็ยืนยันว่าเขาโดนก่อน ผมก็บอกว่าผิด เราจะโดนก่อนหรืออะไรแล้วก็ต้องแยก กฎหมายมันมี 2 อย่าง หากคุณลุงผิดคุณลุงก็ต้องชดใช้แต่ผิด ตามคลิปที่ปรากฏในโซเชียล เหมือนพีชจะเจตนานะ จึงค่อยๆปรับความเข้าใจเขา และให้เขาทบทวน และเขาก็มาขอโทษผม เขาบอกว่าป๊า พีชขอโทษ เราก็เห็นว่าลูกเราก็ต้องให้โอกาส ในฐานะคนเป็นพ่อ
และผมได้ไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้ถามผม และผมได้บอกว่าประวัติน้องพีชไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เพิ่งมีครั้งนี้ ยืนยันว่าเห็นใจคุณลุงคุณป้ามาก เราดูแลทุกข์สุขของประชาชนมาทั้งชีวิตแล้วนับประสาอะไรกับลูกเราก่อเหตุแบบนี้ เรามีเหรอที่จะไม่ดูแลคุณลุงคุณป้า เจตนารมณ์เราไม่ว่าลูกจะถูกหรือผิด ผมดูแลผมเป็นห่วงคุณลุงคุณป้ามาก
และผมอยากจะขอโทษกับสังคม และคุณลุงคุณป้า ซึ่งผมไม่ได้มีเวลาดูแลลูกให้เวลาเขาน้อยไป ซึ่งมันก็มีส่วนที่ทำให้ลูกชายผมเป็นแบบนี้ และผมยอมรับผิดทั้งหมด แม้ว่าหากคุณลุงผิดผมก็จะดูแลรับใช้คุณลุงหากคุณลุงจะถูกผมก็จะยิ่งดูแล ให้มากกว่าเดิม ที่เราจะดูแลคุณลุง ชีวิตคุณลุงก็มีค่าผมเข้าใจ ซึ่งผมเข้าใจการเป็นพ่อเป็นลูกกัน
“แต่ขอโอกาสให้กับลูกชาย น้องพีชก็อายุ 27-28 ปีเป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง ความคิดเขาก็อาจจะยัง ไม่ถึงระดับพวกผม ถ้าเหตุการณ์แบบนั้นถ้าเป็นผมเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ที่สังคมที่ลูกผมทำผิดไป หรือพวกผมทำผิดอะไรไป ก็ขอโอกาสให้กับเด็กคนหนึ่งเพื่อที่จะให้เขากลับเนื้อกลับตัว เป็นคนดี และผมในฐานะเป็นพ่อที่ออกมา ก็ไม่ได้ปกป้องลูก”
ส่วนทางด้านกฎหมายก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไป ด้วยความยุติธรรม เราไม่มีการใช้เส้นเพราะเราไม่มีเส้นอยู่แล้วไม่มีอิทธิพล ตามที่สื่อต่างๆกล่าวว่านักการเมืองมีอิทธิพล สื่อทุกช่องลงไปที่เทศบาลธัญบุรีได้ ไปถามดูว่าผมได้ดูแลทุกข์สุขพ่อแม่พี่น้องแบบไหน ชีวิตผมไม่เคยมีเรื่องชีวิตผมไม่เคยไปรังแกใคร มีแต่ดูแลทุกข์สุขพ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรี
ส่วนที่สังคมถามว่านายยกฯเบี้ยวพ่อแม่รังแกฉันหรือไม่ นายกฯเบี้ยว บอกว่าลูกเราก็รัก แต่ผมไม่เคยเข้าข้างลูก ลูกเราสั่งสอนตลอดมีเรื่องมีราวไม่ว่าจะเป็นส.สหรือว่าน้องพีช มีเรื่องมีราวมาผมไม่เคยเข้าข้างลูกเลย มีแต่ปกครองลูกว่าอย่ามีเรื่องอย่าไปรังแกประชาชนน เพราะเราเป็นตัวแทนของประชาชน อย่าคิดว่าผมเป็นนักการเมือง ผมเป็นแค่นายกฯตำแหน่งกระจอกๆแบบนี้ ผมไม่เคยคิดที่อยากจะเป็นใหญ่เป็นโต อยากดูแลชาวบ้านผมเกิดธัญบุรี
Advertisement
