จากกรณีที่นาย สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัคร สท.ลำลูกกา ทีมธัญญก้าวหน้า ลูกชายคนสุดท้องของ “นายกเบี้ยว” นาย กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ขับรถเก๋งหรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้า นายประจักษ์ ดวงใย และนางสมศรี ดวงใย สองสามีภรรยา ลุงกับป้าที่ขับรถกระบะสีดำจนไปชนแบริเออร์ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดที่ถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีการแอบอ้างชื่อ “อาต่าย” ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 24 เม.ย. 68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า รู้จักกับ “นายกเบี้ยว” ซึ่งเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน และภายหลังเกิดเหตุ ตนได้พูดคุยกับพ่อของหนุ่มพีชแล้ว โดยกล่าวตักเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า การกระทำของลูกชายไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และไม่ควรอ้างชื่อตน หรือผู้ใหญ่ในสังคมเพื่อพ้นผิด เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่น่าเสียใจ
“ถ้าทำดีแล้วอ้างชื่อ จะรู้สึกภูมิใจ แต่ถ้าทำไม่ดีแล้วอ้าง ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ต้องมีจิตสำนึก มีสติ”
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า พ่อของหนุ่มลูกพีชก็ได้กล่าวคำขอโทษ และตนเองไม่ได้โกรธเคืองใดๆ แต่ขอให้ยึดถือหลักการรับผิดชอบต่อการกระทำ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวภาพจากคลิปที่ปรากฏมีความชัดเจนอยู่แล้ว แทบไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม เพราะเป็นหลักฐานที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งสำคัญคือการกระทำเช่นนี้ หากในรถมีเด็กหรือผู้ที่บอบบางกว่า อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้ อยากให้ทุกคนตระหนักว่า สมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไรกล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือก็บันทึกไว้หมดแล้ว คิดจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี
พร้อมฝากถึงผู้ปกครองและสังคมให้ช่วยกันแนะนำบุตรหลานถึงพฤติกรรมที่เหมาะสมบนท้องถนน เน้นการมีสติ มีน้ำใจ และรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง เด็กก็คือเด็ก แต่กรณีนี้ไม่ใช่เด็กเล็กอีกต่อไป ถือว่าเป็นวัยผู้ใหญ่แล้ว ควรมีวุฒิภาวะและสามัญสำนึก ผิดก็ต้องยอมรับผิด ไม่ควรอ้างใครให้พ้นผิด
Advertisement