นายอัศนัย ครุฑชูชื่น อายุ 48 ปี มาพักผ่อนกับครอบครัวที่บังกะโล ของอาคารที่พักสวัสดิการทหารอากาศ (บ่อฝ้าย) ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้า ลูกชายอายุ 16 ปี ลงไปเล่นน้ำทะเลตรงจุดที่เครื่องบินตก ซึ่งน้ำระดับน้ำทะเลเท่าเอวลูกชาย แล้วประมาณ 07.30 น. แดดเริ่มร้อน ก็เลยเรียกลูกกลับขึ้นมา นั่งทานข้าวประมาณ 8 โมงเช้า ตนเองก็ได้ยินเสียง เครื่องบินเทสเครื่อง และมีเครื่องบินลำก่อนนี้บินขึ้นไป ทราบว่าเป็นเครื่องบินไอพ่น ตนเองจึงได้เรียกลูกมาดูเครื่องบิน
จากนั้นประมาณ 15 นาทีก่อนเครื่องบินขึ้นก็มีเสียงเทสเครื่องตลอด พอเครื่องบินลำประสบเหตุขึ้น ก็บินไปในทิศทางที่ไม่ได้ไปตามรันเวย์ มาผ่านจุดที่ตนเองพัก จึงได้ชี้ให้ลูกดู แล้วลูกบอกกับตนเองว่า “ป๊า เครื่องบินเอียงแปลกๆ” และพบว่าใบพัดไม่หมุน
จากนั้นก็เครื่องบินก็ปักหัวลงทะเล มีเสียงเหมือนหม้อแปลงระเบิดตอนตกลงมา ซึ่งขณะนั้นน้ำอยู่ในระดับเอว ส่วนตัวไม่เห็นมีใครกระเด็นออกมา เห็นแค่เครื่องบินตกลงลงน้ำทะเล แล้วก็มีพี่ ๆทหารวิ่งมาช่วยเหลือทันที
ซึ่งในช่วงที่เครื่องบิน บินมาทางทะเล ก็ยังได้ยินเสียงอยู่ แต่พอจังหวะที่ก่อนดิ่งลงทะเลตนไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลย
ขณะนั้นมีนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ คุยกันด้วยว่า เห็นเครื่องมีลักษณะพลิกตัว ก่อนที่จะดิ่งลงมาตกด้วย
ทั้งนี้ตนเองยอมรับว่า ตกใจมาก ที่เห็นเหตุการณ์ต่อหน้า แล้วพอเครื่องบินตก จึงให้ลูกชายถ่ายภาพไว้ พร้อมนึกย้อนไปหากลูกชายยังเล่นน้ำอยู่จะเป็นยังไง ซึ่งยืนยันตอนนั้น มีทหารอากาศ ฝูงบิน 509 เข้ามาช่วยเหลือทันทีเป็นชุดแรก
ขณะที่ นายนราธิป ครุฑชูชื่น หรือน้องอิฐ เล่าให้ฟังว่า หลังจากตนเองไปเล่นน้ำ แล้วขึ้นมาอาบน้ำ ตอนนั้นประมาณ 08:00 น. เครื่องบินกำลังขึ้น ยอมรับตนเองเห็นบินวนมาทางที่พัก แล้วดึงหัวขึ้น แล้วดิ่งลงหัวปักทะเล รู้สึกตกใจ ตั้งแต่ที่เครื่องบินบินผ่านหัวตัวเองไป แล้วเห็นภาพเครื่องบินตก
น้องอิฐบอกอีกว่า ตอนแรกที่นั่งกินข้าวกัน ตนเองได้ยินเสียงทดลองเครื่องนานแล้ว ก็ถามพ่อว่า เหมือนเสียงเครื่องตัดหญ้าหรือเปล่า แต่พ่อบอกว่าเป็นเครื่องบิน จากนั้นเครื่องบินที่พูดถึงก็ขึ้นบินผ่านหัวแล้วร่อนลง จังหวะที่เครื่องตก ตนเองเห็นใบพัดข้างซ้ายไม่หมุน ตนเองยังคุยกับพ่อทำไมใบพัดไม่หมุน แล้วก่อนที่จะบินผ่านหัว เครื่องบินก็เอียงมาก่อนอยู่แล้ว
Advertisement