มั่นใจสัญชาตญาณนักบิน ถูกสั่งสอนมา "ตายเสียดีกว่าจะละทิ้งหน้าที่"
ผู้บังคับฝูงบินฯ 509 มั่นใจสัญชาตญาณนักบิน บังคับเครื่องบินดิ่งทะเล ไม่ต้องการให้ประชาชนมีผลกระทบ เพราะถูกสั่งสอนมา "ตายเสียดีกว่าจะละทิ้งหน้าที่"
จากกรณี ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรี ได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเล หน้ารีสอร์ตชะอำ เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 25 เม.ย. 68 พบผู้เสียชีวิต 6 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบพบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินเล็กของ กองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่อง C/S RTP964 แบบ DHC6 ขึ้นจากสนามบินหัวหิน เมื่อเวลา 08.08 น. ในภารกิจ TEST FLIGHT ตกบริเวณสนามบินทิศทาง 100/0.1 NM จากสนามบินหัวหิน สาเหตุ RIGHT ENGINE FAIL หรือเครื่องยนต์ด้านขวาขัดข้อง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 25 เม.ย. 68 นาวาอากาศเอกภคินท์ เพชรรัตน์ ผู้บังคับฝูงบินอิสระปฏิบัติภารกิจพิเศษ 509 กล่าวว่า วันนี้มีน้องๆ ในทีมฝูงบินเข้ามาช่วยเหลือ ในช่วงแรกของเหตุการณ์ในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ และตอนนั้นกำลังเคารพธงชาติ และอบรมกันอยู่ ด้วยสัญชาตญาตพอเห็นก็เข้าไปช่วย ตามที่เคยอบรมในการช่วยชีวิตคน ระดับน้ำตอนนั้นยังต่ำกว่าปัจจุบัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องประเมินพวกสารต่างๆ ว่ามีอันตรายหรือไม่
ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ก็มาอำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือ ซึ่งการเอากู้ซากเครื่องบินตามหลักการ น้ำทะเลจะเป็นตัวช่วยพยุงพานำขึ้นมาได้ง่าย โดยพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
เมื่อถามว่า ในฐานะของการเป็นนักบิน มองว่าจุดที่ตก นักบินพยายามที่จะบังคับเครื่องให้พ้นจุดที่มีประชาชนอาศัยอยู่หรือไม่ นาวาอากาศเอกภคินท์ บอกว่า ตามธรรมชาติของการเป็นนักบิน โดยเฉพาะทหารตำรวจจะนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ไปบินอย่างเดียวแล้วเอาตัวรอด และมั่นใจว่า การเป็นข้าราชการ จะพยายามถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำ
“ธรรมชาติของทหารตำรวจ จะไม่ให้ไปกระทบกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะพวกเราถูกอบรมสั่งสอนมาอยู่แล้วว่า ตายเสียดีกว่าจะละทิ้งหน้าที่หรือตายในสนามรบเป็นเกียรติของทหาร ซึ่งไม่ใช่แค่ในสนามรบ แต่ทหารเป็นผู้บริการเป็นข้าของประชาชน ทำจริงไม่ได้เพียงแค่พูด”
Advertisement
