ร้องไห้ลั่นวัด ร่างครอบครัวแคปติวาทั้ง 5 ศพ ถึงบ้านเกิดที่อุดรฯแล้ว
ร้องไห้ลั่นวัดร่างครอบครัวแคปติวาทั้ง 5 ศพถึงบ้านเกิดที่อุดรฯแล้ว เตรียมทำพิธีใส่เบ้าเก็บร่างไว้ 3 ปี แล้วจึงประกอบพิธีทำบุญตามประเพณีอีสาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลตรุ่นแคปติวาสีขาว หมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี โดนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนท้ายอัดก๊อปปี้เสยท้ายรถบรรทุกพ่วงอีกคันที่จอดอยู่ด้านหน้า มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 8 ราย เป็นชาวต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี 5 ราย และชาว จ.นครราชสีมาจำนวน 3 ราย ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกัน เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงกิโลเมตรที่ 23+300 ขาออกมุ่งหน้า จ.ชลบุรี ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธงจ.สมุทรปราการ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา
วันที่ 26 เมษายน 2568 เวลา 19.00 น.ที่วัดโพธิ์ชัยบ้านดอนแตง ตำบลนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย บำเพ็ญกุศล ซึ่งบรรยากาศมีผู้นำชุมชนและชาวบ้านช่วยกันจัดสถานที่เตรียมรับร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายเข้าใส่ในโลงเย็น พร้อมทั้งเตรียมข้าวของใช้ทั้ง 5 ราย อาหารตั้งหน้าโล่งศพธูปเทียนและจัดเตรียมดอกไม้ประดับโลงศพ
โดยมีนายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี มาเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนำพวงหรีดมาวาง พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านญาติ และชาวบ้านมาคอยรับร่างของผู้เสียชีวิต และให้กำลังใจกับญาติผู้สูญเสียคนในครอบครัวไปคราวเดียวกัน 8 รายที่รวมกับอีก 3 รายที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
ต่อมาเวลา 21.00 น.ขบวนรถตู้ของกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู,กู้ภัยส่งเสริมธรรมแงอุดรธานี,กู้ภัยเมธาธรรมสถานที่นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เคลื่อนเข้ามาภายในวัดเพื่อนำส่งร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ร่าง ประกอบด้วย 1.น.ส.อริญญาอ่อนตาผา 2.ด.ช.พรรพล 3.น.ส.การตรัตน์ ภูมิเจิม 4.นางหมุน อ่อนตาผา และ 5.นายอภิวัฒน์ แจ่มกระจ่าง มาส่งที่และบรรจุในโลงเย็นที่เตรียมไว้พร้อมด้วยรูปภาพของผู้จากไปเรียงรายกัน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯได้เชิญญาติมาการประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณและนำโลงศพลงจากรถลงมาวางไว้หน้าโรงเย็นทั้ง 5 ร่าง ก่อนที่จะเริ่มทำการบรรจุร่างเข้าโลงเย็นจนครบทั้ง 5 ศพ เมื่อบรรจุศพเข้าโรงเย็นเสร็จแล้วจึงเริ่มประกอบพิธีทางศาสนา
โดยมีนายทองเลื่อน อ่อนตาผา อายุ 67 ปี ในฐานะสามี พ่อ ตา พ่อตา และปู่ของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติได้จุดธูปบอกกล่าวร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายที่หน้าโลงเย็นให้กลับมาที่วัดบ้านเกิด ก่อนที่จะนิมนต์พระสงฆ์สวด ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้องและผู้มาร่วมงาน เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์สูญเสียชีวิตไปพร้อมกันและเป็นคนในครอบครัวเดียวกันถึง 8 ราย
นายสมบูรณ์ อ่อนตาผา อายุ 32 ปี ลูกชายคนเล็กนายทองเลื่อนฯ เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่กับคนครอบครัว ตนก็รีบบินกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้เลย และจะไม่กลับไปทำงานที่ประเทศเกาหลีอีกต่อไป เพราะจะอยู่ดูแลพ่อแทนพี่สาวคนกลางที่บ้าน โดยตนทำงานก่อสร้างส่งเงินให้พี่สาวดูแลพ่อกับแม่และดูแลธุรกิจที่บ้าน ตนก็อยากบอกพี่สาวว่าให้ไปสู่สุคติ สู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงทางบ้าน ตนจะดูแลครอบครัวเอง จะทำอาชีพเกษตรกรกับครอบครัวอยู่ที่บ้าน หลังจากตนไปทำงานเกาหลีใต้ 6 ปี รายได้ก็ดีพอสมควรสามารถเลี้ยงครอบครัวได้
"พอตนทราบข่าวตนตกใจมาก สูญเสียทั้งแม่ ลูกเมีย พี่สาว พี่เขย และหลานๆ และก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุร้ายล่วงหน้าอะไรเลย จะมีแต่ลูกสาวที่เสียชีวิตบ่นว่าอยากไปเที่ยวทะเล เพราะลูกสาวอยากไปเที่ยวทะเลมาก พอมีโอกาสจึงให้พี่สาวแวะรับที่ จ.นครราชสีมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้นกับครอบครัวของตน"
สำหรับกำหนดการประกอบพิธีหลังจากร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายมาถึงวัดบ้านเกิดในคืนวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน2568 เวลา19.00น.จะมีพิธีสวดอภิธรรม และ ในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน2568 เวลา13.00 น.ญาติจะนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายบรรจุใส่เบ้าเก็บไว้เป็นระยะเวลา 3 ปี แล้วจึงจะประกอบพิธีทำบุญให้ผู้เสียชีวิตตามประเพณีท้องถิ่นทางภาคอีสานที่การเสียชีวิตหมู่ครั้งนี้ผิดธรรมชาติหรือตายโหง
Advertisement
