วันที่ 30 เมษายน 2568 เกิดเหตุวุ่นวายภายในร้านเครื่องเขียนแห่งหนึ่ง ริมถนนวงษโต ในตัวเทศบาลเมืองชัยนาทเมื่อมีหญิงสูงวัย อายุ 65 ปี ลงไปนอนชักดิ้นกับพื้นด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับเรียกหาพ่อปู่ บอกว่าตนเองนับถือพ่อปู่ พ่อปู่กำลังไม่พอใจ ซึ่งกู้ภัยพยายามเกลี้ยกล่อม เพื่อที่จะเอาตัวไปพบแพทย์ แต่ป้า ก็ยังไม่ยอมร้องทำเสียงโอดโอยไม่ยอมขึ้นเตียงกู้ภัย จนตำรวจต้องเข้าเจรจาเอง ในตอนแรกก็ยังแข็งขืน
จนตำรวจต้องบอกว่าถ้าขัดขืนก็ต้องอุ้ม ทำให้ป้ายอมพลิกตัวให้กู้ภัยเอาขึ้นเตียงใส่รถพยาบาลไปส่ง ท่ามกลางการลุ้นอย่างใจจดใจจ่อของลูกค้าและพนักงานร้านเครื่องเขียน
โดยเจ้าของร้านเครื่องเขียน เล่าว่าป้ารายนี้ ก่อนนี้เคยมาทำงานดูแลคนป่วยให้ ต่อมาก็ออกไปอยู่ที่อื่น จนเมื่อต้นเดือนเมษายนได้พาน้องเอ (นามสมมติ) หลานชายอายุ 16 ปี มาฝากให้ทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้าน ตนสงสารก็ให้น้องมาทำงาน ระหว่างเดือนก็มีการเบิกเงินไปใช้บ้างบางส่วน แต่มาวันนี้เป็นวันจ่ายเงินงวดสุดท้าย เพราะน้องเอจะต้องไปเรียนต่อ ซึ่งป้าที่เป็นย่าน้องเอ รู้ว่าเงินน้องจะออกวันนี้ก็มาดักที่ร้าน เพื่อจะขอแบ่งเงินค่าเแรงของน้อง แต่บังเอิญพ่อของน้อง หรือ ลูกชายของป้ารู้เข้า จึงมาขัดขวางไม่ให้เอาเงินหลาน เพราะน้องทำงานเหนื่อยมาทั้งเดือน เพื่อเอาไปเป็นทุนการศึกษา ป้าซึ่งเป้นย่าจะมาทำกับหลานแบบนี้ไม่ได้ ทำให้ป้าไม่พอใจทะเลาะกันเสียงดัง แล้วป้าก็ทิ้งตัวลงนอนแล้วทุบโทรศัพท์กับพื้น ทำเป็นชักจนต้องแจ้งกู้ภัยและตำรวจเข้ามาเอาตัวไปส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
ซึ่งคนในร้านต่างเอือมระอากับพฤติกรรมของป้า เพราะตอนที่ทำงานดูแลคนป่วยที่ร้านก็ไม่รับผิดชอบงาน พอฝากหลานมาทำงานที่ร้านก็ยังมาบังคับให้หลานเบิกเงินให้ใช้ จนมางวดสุดท้ายก็จะมาบังคับเอาของหลานอีก ส่วนพ่อของน้องเอ ก็สุดทนกับพฤติกรรมของแม่ เดินหนีออกจากที่เกิดเหตุไปด้วยความเซ็ง
Advertisement